วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

เรื่องที่ 19 : ข้อยกเว้นที่ไม่ใช่ข้อยกเว้น เงื่อนไขที่ไม่ใช่เงื่อนไข ตกลงเป็นข้อยกเว้นหรือเงื่อนไขกันแน่?

(ตอนที่หนึ่ง)

หลายคนอาจรู้สึกว่าการอ่านกรมธรรม์ประกันภัยนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก โดยเฉพาะกับบุคคลทั่วไป กระนั้นก็เถอะ บุคลากรในธุรกิจประกันภัยเอง ยังทำความเข้าใจไม่ใคร่ตรงกันเลย

หลายกรมธรรม์ประกันภัย ธุรกิจประกันภัยนิยมนำต้นฉบับกรมธรรม์ประกันภัย หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องจากต่างประเทศมาใช้ โดยแปลมาเป็นภาษาไทย บ่อยครั้ง นำมาแปลโดยอาจไม่เข้าใจเจตนารมณ์ดั้งเดิมของผู้ร่าง ผมเองในฐานะทำหน้าที่รับแปลบ้างบางครั้ง ก็ยอมรับว่า ไม่สามารถตรวจสอบจากเจตนารมณ์เดิมของผู้ร่างได้ ต้องอาศัยบทความ หรือแนวคำพิพากษาศาลมาใช้เป็นแนวทางประกอบ หรือกระทั่งตีความจากประสบการณ์ที่เคยทำงานในธุรกิจประกันภัยมายาวนาน 

ในเวลาที่จะทำความเข้าใจกับกรมธรรม์ประกันภัยสักฉบับหนึ่ง คนส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญแก่หัวข้อความคุ้มครองกับข้อยกเว้นมาก จนละเลยไม่ใส่ใจกับเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ในโอกาสที่ได้ไปบรรยายให้ความรู้ด้านการประกันภัย ผมพยายามย้ำเสมอว่า อย่าละเลยเรื่องของเงื่อนไข เพราะเงื่อนไขบางข้ออาจส่งผลทำให้การทำประกันภัยของผู้เอาประกันภัยกลายเป็นสิ้นสุดความคุ้มครองโดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้

อย่างในกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินมีเงื่อนไขข้อที่ 9 การระงับไปแห่งสัญญาประกันภัย ระบุว่า
      "ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้เป็นอันระงับไปทันทีเมื่อ
       9.1 มีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจการค้า การผลิตหรือลักษณะการใช้สถานที่หรือสภาพแวดล้อม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นมีผลกระทบต่ออาคารหรือสถานที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยและทำให้ความเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้น
       9.2 สิ่งปลูกสร้างซึ่งเอาประกันภัยหรือสถานที่ตั้งทรัพย์สินที่เอาประกันภัยตกอยู่ในสภาพไม่มีผู้อยู่อาศัย หรือไม่มีผู้ดูแลรักษา และยังคงอยู่ในสภาพนั้นเป็นเวลาเกินกว่า 30 วันติดต่อกัน
       9.3 มีการโยกย้ายทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไปยังอาคารหรือสถานที่อื่นใดนอกจากสถานที่ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
       9.4 ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ได้เปลี่ยนมือจากผู้เอาประกันภัยโดยวิธีอื่น นอกจากทางพินัยกรรมหรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
       9.5 ผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัยเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันเริ่มต้นระยะเวลาเอาประกันภัย โดยให้กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลนับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว

       ข้อ 9.1 ถึง 9.4 จะได้รับความคุ้มครอง เมื่อผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบก่อนเกิดความเสียหายขึ้น และบริษัทตกลงยินยอมรับประกันภัยต่อไป ทั้งนี้ บริษัทจะออกใบสลักหลังแนบท้ายไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยนี้"

ผมฝากให้ลองอ่านเงื่อนไขข้อข้างต้นดูว่า คุณอ่านแล้วเข้าใจว่าอย่างไร จากนั้นให้ลองอ่านทบทวนอีกครั้งอย่างพินิจพิเคราะห์และยกตัวอย่างประกอบในแต่ละข้อของเงื่อนไขนี้ แล้วให้นำมาเทียบเคียงกับสิ่งที่ผมตีความในคราวต่อไปว่า เรามีความเห็นแตกต่าง หรือตรงกันอย่างไรบ้างครับ ทำให้บทความเรื่องนี้อาจใช้เวลาเล่าสู่กันฟังหลายตอนหน่อย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น