(ตอนที่หนึ่ง)
ในบทความเรื่องที่ 39
ที่ผ่านมา อ้างอิงมาจากคำพิพากษาศาลฎีกาของประเทศแคนาดา
ในคดี Co-operators Life Insurance
Co. v. Gibbens, [2009] S.C.J. No. 59
ทำให้บางท่านอาจตั้งคำถามว่า
ถ้าไม่เจอคำพิพากษาของประเทศไทย ก็ลองหาจากในประเทศแถบเอเชียนี้ได้ไหม?
เผื่อจะมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปก็ได้
บังเอิญด้วยความที่อยู่ไม่เป็นสุขนัก
เลยไปอ่านเจอคดีล่าสุดของประเทศสิงค์โปร
ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลพอดี โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า
เมื่อเช้าวันที่ 4
สิงหาคม ค.ศ. 2012
มีคนไปพบนาย Q
อายุ 50
ปี นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นห้องนอน
จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ก็ไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้ทัน นาย Q เสียชีวิตภายหลังจากถึงมือแพทย์ไม่นาน
ด้วยสาเหตุการตายเนื่องจากภาวะร่างกายล้มเหลวโดยมีอาการตกเลือดในปอด (Pulmonary Haemorrhage) อันเป็นผลมาจากการเสพยาหลายขนานจนก่อให้เกิดผลข้างเคียง (Mixed Drug Intoxication)
ทายาทของนาย Q ผู้ซึ่งได้เอาประกันภัยตนเองเอาไว้ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลก่อนที่จะเสียชีวิต
ได้มาเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยรายนั้นรับผิดชอบ แต่ได้รับการปฎิเสธว่า
การเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัยมิใช่เกิดจากอุบัติเหตุตามเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว
ทายาทจึงได้นำคดีขึ้นสู่ศาล
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า
ผู้เอาประกันภัยได้กินยาเกินขนาดอย่างน้อยสามขนานในการรักษาอาการเจ็บหลังเรื้อรังที่เป็นมาก่อนหน้านั้นหลายปี โดยเคยไปพบแพทย์หลายคนมาแล้ว และได้รับยาหลายขนานมาทานจนก่อให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา
จึงไม่ถือเป็นอุบัติเหตุ เพราะผู้เอาประกันภัยคาดหวังได้ถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดตามมาได้อยู่แล้ว
แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานการฆ่าตัวตายก็ตาม ด้วยเหตุนี้ บริษัทประกันภัยจึงไม่จำต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว
ทายาทได้ทำการอุทธรณ์
ลองทายกันดูนะครับว่า
ศาลอุทธรณ์มีความเห็นอย่างไร?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น