(ตอนที่หนึ่ง)
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ในต่างประเทศ
และในเมืองไทยเอง
ล้วนต่างตั้งเงื่อนไขความคุ้มครองในส่วนความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต
ร่างกายของบุคคลภายนอกเอาไว้จากอุบัติเหตุ อันเกิดขึ้นเนื่องจาก “การใช้รถ หรือใช้ทาง”
คำว่า “การใช้รถ” นั้น
ดูเผิน ๆ เสมือนหนึ่งไม่น่าจะมีความหมายซับซ้อนอะไร? ทั้งในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เองมิได้กำหนดคำนิยามเอาไว้
ในความนึกคิดของคนทั่วไป มักมองไปที่เรื่องอุบัติเหตุจากการใช้รถทางถนนทั่วไป เป็นต้นว่า
รถเฉี่ยวชนกัน รถพลิกคว่ำ รถเสียหลักชนกำแพง ชนต้นไม้ ชนคน อะไรจำพวกนี้มากกว่า
แต่อันที่จริงคนเราสามารถนำรถไปใช้ทำอะไรอย่างอื่นได้อีกมากมาย เมื่อพินิจพิเคราะห์ลึกลงไป
น่าจะให้ความหมายมากกว่านี้อีกมากหลาย
ลองดูตัวอย่างแรกกันนะครับ
ใช้รถไปยิงปืนใส่คนอื่นซึ่งอยู่นอกรถ
อย่างนี้บุคคลอื่นผู้ได้รับบาดเจ็บ ควรจะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์หรือไม่?
และการกระทำเช่นนี้ อยู่ในความหมาย “การใช้รถ” ดังว่านั้น หรือเปล่า?
คุณคิดว่าอย่างไรครับ?
เมื่อพิจารณาโดยอาศัยเทียบเคียงกับคดีต่างประเทศ
ซึ่งเรื่องราวมีอยู่ว่า มีสุภาพสตรีรายหนึ่งได้จอดรถลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
ขณะกำลังเดินกลับมาที่รถของตนเอง ก็ถูกคนร้ายที่อยู่ในรถยนต์อีกคันหนึ่งยิงปืนใส่จนได้รับบาดเจ็บ
ประเด็นข้อต่อสู้ที่สำคัญในคดีนี้ คือ การกระทำของคนร้ายรายนี้อยู่ในความหมายของคำว่า “การใช้รถ”
หรือไม่?
ฝ่ายผู้บาดเจ็บบอกว่า ใช่ แต่ฝ่ายบริษัทประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองปฎิเสธว่า
ไม่ใช่ แล้วศาลคิดเห็นอย่างไร?
ศาลชั้นต้นในคดีนี้เห็นด้วยกับบริษัทประกันภัย
ขณะที่ศาลอุทธรณ์กับศาลฎีกามีความเห็นตรงกันว่า คำว่า “การใช้รถ”
นั้นควรให้ความหมายกว้างกว่าการขับรถชน อย่างในคดีนี้ คนร้ายใช้รถเป็นยานพาหนะในการทำร้ายบุคคลอื่น
และในการหลบหนีด้วย ดังนั้น การยิงปืนของคนร้ายกับการใช้รถจึงมีความเชื่อมโยงกัน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว บริษัทประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองนี้จำต้องรับผิดตามเงื่อนไข
(อ้างอิงคดี Livsey v. Mercury
Ins. Group, 396 N.J. Super. 373, 377-78, 934 A.2d 61 (App.Div. 2007))
แม้เงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของต่างประเทศกับของไทยจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง
แต่วัตถุประสงค์ที่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวถึงเพียงเพื่อให้มุมมองที่หลากหลายในเรื่องของการตีความคำว่า
“การใช้รถ” เป็นสำคัญเท่านั้นครับ
นี่เป็นตัวอย่างคดีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผมยังมีอีกหนึ่งตัวอย่างคดีของประเทศแคนาดาในลักษณะเรื่องราวเช่นนี้มาเปรียบเทียบให้เห็นในตอนต่อไป