เรื่องที่ 141 : ผู้รับเหมาช่วงจะได้รับความคุ้มครองในฐานะผู้เอาประกันภัยร่วม ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิดของผู้รับเหมาหรือไม่?
เป็นที่รับรู้ และเข้าใจกันมานานมาก และอยู่บ่อยครั้งในธุรกิจประกันภัยว่า ผู้รับเหมาช่วง (Sub-contractors) จะได้รับความคุ้มครองในฐานะผู้เอาประกันภัยร่วม (Co-insured) ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด สำหรับผู้รับเหมา (Contractor’s All Risks Insurance Policy) หรือกรมธรรม์ประกันภัยการปฏิบัติตามสัญญา (Contract Works Insurance Policy)
แต่การรับรู้ และความเข้าใจดังกล่าวอาจจำต้องหวั่นไหวไปแล้ว เมื่อมีคำพิพากษาเกี่ยวกับประเด็นนี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ
โรงเรียนแห่งหนึ่งได้ว่าจ้างผู้รับเหมาหลักเจ้าหนึ่งให้มาทำการปรับปรุง ต่อเติม และขยายอาคาร สิ่งปลูกสร้างภายในโรงเรียนแห่งนั้น ในลักษณะสัญญาจ้างออกแบบรวมก่อสร้าง (Design & Build Contract) โดยผู้รับเหมาหลักเจ้านี้ได้จัดช่วงงานบางส่วนไปให้แก่ผู้รับเหมาช่วงหลายราย รวมถึงผู้รับเหมาช่วงงานหลังคาด้วย พร้อมได้จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด สำหรับผู้รับเหมาครอบคลุมทั้งผู้รับเหมาหลักกับผู้รับเหมาช่วงทุกรายด้วยในฉบับเดียวกัน
ครั้นเมื่อถึงตารางการทำงานในส่วนของหลังคา ผู้รับเหมาหลักได้ออกใบอนุญาตให้ทำงานที่มีความร้อนและประกายไฟ (Hot Work Permit) แก่ผู้รับเหมาช่วงงานหลังคา ซึ่งจะมีการทำงานตัด เชื่อมโดยใช้เครื่องพ่นไฟ (blowtorch) ด้วย
ขณะทำงานเช่นว่านั้น ได้เกิดอุบัติไฟไหม้ขึ้นมาลุกลามไปสร้างความเสียหายอย่างมากมายแก่ตัวอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ตลอดจนทรัพย์สินอื่นของโรงเรียน
โรงเรียนในฐานะผู้ว่าจ้างและผู้เสียหายในครั้งนี้จึงได้เรียกร้องให้ทั้งผู้รับเหมาหลักกับผู้รับเหมาช่วงงานหลังคาร่วมกันรับผิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 11 ล้านปอนด์ (หรือประมาณร่วมห้าร้อยล้านบาท)
บริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยโครงการนี้ได้ถูกเรียกเข้ามาให้รับผิดในนามของผู้เอาประกันภัยผู้ก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าว
ผลการเจรจาต่อรอง ค่าสินไหมทดแทนที่ตกลงกันได้ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 8.75 ล้านปอนด์ (หรือประมาณร่วมสี่ร้อยล้านบาท) ซึ่งตกเป็นภาระความรับผิดของบริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยโครงการนี้
เนื่องจากข้อตกลงภายใต้สัญญาจ้างงานช่วงในส่วนของหลังคาระหว่างผู้รับเหมาหลักกับผู้รับเหมาช่วงงานหลังคาได้ระบุให้ผู้รับเหมาช่วงงานหลังคาจัดทำประกันภัยคุ้มครองเองเอาไว้ด้วย โดยที่ผู้รับเหมาช่วงงานหลังคาก็ปฏิบัติตามด้วยการไปซื้อความคุ้มครองความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกเอาไว้ในวงเงิน 5 ล้านปอนด์ (หรือประมาณสองร้อยกว่าล้านบาท)
ทางบริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยโครงการนี้จึงเรียกร้องให้ทั้งผู้รับเหมาช่วงงานหลังคากับบริษัทประกันภัยของตนเข้ามาร่วมชดใช้เต็มวงเงิน 5 ล้านปอนด์นั้นเองให้แก่ผู้เสียหาย อันเนื่องมาจากความประมาทเลินเล่อของตนเองเป็นหลัก ส่วนค่าสินไหมทดแทนส่วนที่เหลืออยู่ บริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยโครงการนี้ก็จะรับผิดแทนให้ไป
ปรากฏว่า ทั้งผู้รับเหมาช่วงงานหลังคากับบริษัทประกันภัยของตนร่วมกันโต้แย้ง โดยอ้างว่า
1) ตนเองเป็นผู้เอาประกันภัยร่วมอยู่ในกรมธรรม์ประกันภัย ฉบับที่คุ้มครองทั้งโครงการด้วย จึงควรได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับผู้รับเหมาหลัก
2) ส่วนกรมธรรม์ประกันภัย ฉบับที่ทำเพิ่มเติมของตนเองนั้นเป็นการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อตกลงตามสัญญาที่มีกับผู้รับเหมาหลัก และเพื่อให้มีจุดประสงค์เป็นความคุ้มครองเพิ่มเติมเสริมจากกรมธรรม์ประกันภัย ฉบับที่คุ้มครองทั้งโครงการ หากวงเงินดังกล่าวไม่เพียงพอ
ฉะนั้น บริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยโครงการนี้จึงควรรับผิดโดยลำพังแต่ผู้เดียว และจะมารับช่วงสิทธิไล่เบี้ยภายหลังเอากับผู้เอาประกันภัยร่วมก็ไม่ได้เช่นกัน
ประเด็นข้อโต้แย้งข้างต้นได้เกิดเป็นคดีพิพาทขึ้นมาสู่ศาลเพื่อให้วินิจฉัย
ศาลคดีนี้ได้พิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า
จริงอยู่ที่ผู้รับเหมาช่วงงานหลังคาในฐานะผู้เอาประกันภัยร่วม ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัย ฉบับที่คุ้มครองทั้งโครงการ ควรได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ฉบับนั้นไปทั้งหมด
แต่เมื่อไปพิจารณาถึงข้อตกลงภายใต้สัญญาจ้างงานช่วงในส่วนของหลังคาระหว่างผู้รับเหมาหลักกับผู้รับเหมาช่วงงานหลังคา ซึ่งได้ระบุอย่างชัดเจนให้ผู้รับเหมาช่วงงานหลังคาจัดทำประกันภัยคุ้มครองเองเป็นการเฉพาะเอาไว้ด้วย
ศาลจึงจำต้องให้น้ำหนักข้อตกลงพิเศษเช่นว่านั้นเหนือกว่าข้อตกลงโดยนัยในเรื่องของผู้เอาประกันภัยร่วมตามสัญญาประกันภัย ฉบับทั้งโครงการ
และตัดสินให้ทั้งผู้รับเหมาช่วงงานหลังคากับบริษัทประกันภัยของตนร่วมกันรับผิดเต็มวงเงิน 5 ล้านปอนด์นั้น หรือ
ให้บริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยโครงการนี้มีสิทธิในการรับช่วงสิทธิไล่เบี้ยภายหลังเอากับผู้รับเหมาช่วงงานหลังคา หรือบริษัทประกันภัยของผู้รับเหมาช่วงนั้นได้ เพราะไม่ถือเป็นการไล่เบี้ยเอากับผู้เอาประกันภัยเองแต่ประการใด
คุณมีความคิดเห็นเช่นใดในคำวินิจฉัยคดีนี้บ้างครับ
(อ้างอิง และเรียบเรียงจากคดี Haberdashers’ Aske’s Federation Trust Ltd. and Others v. Lakehouse Contracts Ltd., Cambridge Polymer Roofing Contracts and Others [2018] EWHC 558 (TCC))
แม้นคดีนี้เป็นเพียงคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น แต่ถือเป็นคดีตัวอย่างที่น่าสนใจ และให้แนวทางในการพิจารณาจัดประกันภัยให้เหมาะสม และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่แท้จริงของคู่สัญญาด้วย
บริการ
- รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
- รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com
อ่านบทความอีกชุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/
และที่ https://www.facebook.com/BestTrainingAdvisory
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น