เรื่องที่ 98: ผู้ขับขี่ขับรถไป
รถเกิดน้ำมันหมดกลางทาง จึงจอดรถและวิ่งข้ามถนนไปขอความช่วยเหลือ
แล้วถูกรถคันอื่นชน ถือเป็นอุบัติเหตุเนื่องจากการใช้รถของตนเองหรือไม่?
ประมาณหนึ่งทุ่มของวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1992
ขณะที่นายวิเศษกำลังขับรถยนต์อยู่บนทางหลวงสายหนึ่ง จู่ ๆ
ก็เห็นนางสวยวิ่งข้ามถนนเข้ามาหา จึงถูกรถของนายวิเศษชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และรถได้เสียหลักจนทำให้นายวิเศษก็ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศรีษะด้วยเช่นกัน
นายวิเศษได้ฟ้องเรียกร้องให้ผู้จัดการมรดกของนางสวยซึ่งได้เสียชีวิตลงเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ของนางสวยให้รับผิดชอบร่วมกัน
สำหรับความบาดเจ็บทางร่างกาย และความเสียหายของตนที่เกิดขึ้นเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของนางสวยดังกล่าว
เนื่องด้วยบริษัทประกันภัยรถยนต์ของนางสวยได้ปฏิเสธไม่ยอมรับผิดชอบให้
ถึงแม้ผู้จัดการมรดกจะยอมรับผิดแล้วก็ตาม
จากพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า
ประมาณสิบนาทีก่อนหน้าจะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
นางสวยได้ขับรถยนต์ของตนไปตามถนนหลวงสายนั้นเช่นกัน แต่ปรากฏว่า รถเกิดน้ำมันหมด
เธอจึงขับไปจอดรถไว้ข้างทางพร้อมเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเอาไว้ด้วย และได้ลงมายืนอยู่ท้ายรถเพื่อจะขอความช่วยเหลือ
โชคดีที่เพื่อนของเธอบังเอิญขับรถผ่านมาพอดี และได้จอดรถตรงอีกฝากของถนน
หลังจากที่ร้องตะโกนคุยกัน
นางสวยได้ตัดสินใจวิ่งข้ามถนนไปจนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นมาในที่สุด
ศาลชั้นต้นได้พิจารณาแล้ว
ตัดสินให้บริษัทประกันภัยรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจฉบับดังกล่าว
บริษัทประกันภัยนั้นยื่นอุทธรณ์ โดยมีประเด็นข้อโต้แย้งหลักอยู่สองข้อ
อันได้แก่
1) นางสวย
ผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับพิพาทกำลังอยู่ในระหว่างการใช้ (use) รถคันที่เอาประกันภัยของตนอยู่หรือไม่?
2) อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจาก
หรือเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้ (use) รถคันที่เอาประกันภัยของนางสวยอยู่หรือไม่?
บริษัทประกันภัยฝ่ายจำเลยให้การโต้แย้งว่า
1) แม้นางสวยอยู่ในช่วงการใช้รถของตน
แต่เมื่อได้จอดรถไว้อย่างถูกต้อง และได้ออกมายืนอยู่ภายนอกตัวรถอย่างปลอดภัยแล้ว
เป็นช่วงระยะเวลานานถึงสิบนาที หรือนานกว่านั้น ถือเป็นอันสิ้นสุดการใช้รถในเวลานั้นแล้ว
2) การตัดสินใจวิ่งข้ามถนน
มิได้เกี่ยวข้องกับการใช้รถซึ่งจอดอยู่ ดังนั้น ความบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจึงมิได้เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้รถของนางสวยแต่ประการใด
อันที่จริง เวลานั้นนางสวยอยู่ในสถานะของคนเดินถนนมากกว่า
ซึ่งได้วิ่งข้ามถนนไปเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนจนกระทั่งได้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ขึ้นมา
3) ความบาดเจ็บของนายวิเศษ โจทก์คดีนี้
จึงมิได้เกิดขึ้นโดยตรงจากรถคันของนางสวยเลย
4) อนึ่ง การอ้างว่า
นางสวยวิ่งไปขอความช่วยเหลือนั้น ไม่ปรากฏพยานหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน
เป็นเพียงข้อสันนิษฐานมากกว่า นางสวยอาจมิได้ยินคำพูดของเพื่อน
จึงได้วิ่งข้ามถนนไปเพื่อสอบถามให้ชัดเจน ก็อาจเป็นได้
ศาลอุทธรณ์ได้พิเคราะห์รายละเอียดแห่งคดีแล้ว
วินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นซึ่งตัดสินว่า
(1) นางสวยได้วิ่งข้ามถนนไปโดยประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้นายวิเศษ
โจทก์ได้รับบาดเจ็บ (จนตนเองเสียชีวิตด้วย)
(2) เชื่อว่า นางสวยได้วิ่งข้ามถนนไปก็เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในการจัดหาน้ำมันมาเติมรถของตน
อันเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการใช้รถของนางสวยเอง เพราะไม่มีเหตุผลอย่างอื่นที่ทำให้น่าเชื่อถือได้ว่า
นางสวยวิ่งข้ามถนนไปด้วยเหตุผลอื่น
(3) ความบาดเจ็บของโจทก์ได้เกิดขึ้นเนื่องมาจาก
(arose out of)
การใช้รถของนางสวย ซึ่งโจทก์ก็ยอมรับในเวลาพิจารณาคดีด้วยว่า ถ้ารถเกิดน้ำมันหมดใกล้ปั้มน้ำมัน
แล้วผู้ขับขี่เดินไปซื้อน้ำมันใส่ถังมาเติม ยังถืออยู่ในช่วงเวลาการใช้รถของตนอยู่
ฉะนั้น ระยะห่างจึงมิใช่เครื่องวัดได้อย่างชัดเจน
ขึ้นอยู่กับข้อความจริงแห่งคดีแต่ละคดีมากกว่า
(4) เนื่องจากกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ระบุว่า
“คุ้มครองความบาดเจ็บโดยอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจาก (caused by) หรือเนื่องมาจาก
(arose out of)
การใช้รถ ....”
แนวทางการตีความทั่วไปของศาล
สำหรับคำว่า “สาเหตุมาจาก (caused by)” หมายความถึง ความเกี่ยวข้องโดยตรง
หรือโดยใกล้ชิดระหว่างเหตุ (cause) และผล (effect) ที่เกิดขึ้น ส่วนคำว่า
“เนื่องมาจาก (arose out of)”
นั้นจะให้ความหมายที่กว้างกว่า โดยไม่จำต้องใกล้ชิดอย่างฉับพลันทันทีก็ได้ แต่ต้องส่งผลสืบเนื่องเกี่ยวข้องกันตามสมควร
ด้วยเหตุนี้ ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ของนางสวยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่นายวิเศษ
โจทก์
(อ้างอิงและเรียบเรียงจากคดี Dunthorne
v. Bentley [1999] Lloyd's Rep. I.R.
560 ( C.A.))
เรื่องต่อไป:
รถยนต์หนึ่งคันเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ มีผู้ขับขี่หนึ่งกับผู้โดยสารอีกสี่ได้รับบาดเจ็บ
จะนับเป็นกี่อุบัติเหตุ (Accident)
กันแน่?
บริการ
- รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
-
รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com
ประกันภัยเป็นเรื่อง http://vivatchaia.blogspot.com
พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook
Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น