วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เรื่องที่ 114: ธนาคาร หรือศูนย์การค้าจำต้องรับผิดตามกฎหมายหรือเปล่าที่มีโจรเข้าไปจี้ปล้น?


(ตอนที่ห้า)

สี่ทุ่มของคืนวันหนึ่ง ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีลานจอดรถขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ระบบไฟส่องสว่างที่ถูกตั้งเวลาให้ปิดโดยอัตโนมัติได้ดับลงตามปกติ อันสอดคล้องกับเวลาปิดทำการท้ายสุดของร้านให้เช่าวิดีโอซึ่งตั้งอยู่ ณ ที่แห่งนั้น แต่วันนั้น กว่าผู้จัดการร้านจะเคลียร์งานเสร็จก็เป็นเวลาปาไปสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ทำให้ตัวเขาเองจำต้องมะงุมมะงาหราฝ่าความมืดมิดตรงไปรถของตัวเองที่จอดอยู่ใกล้หน้าร้าน แล้วเขาก็ถูกคนร้ายสามคนที่ซุ่มอยู่เข้ามาทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส 

ตัวผู้จัดการร้านได้ยื่นฟ้องเรียกร้องให้ทางศูนย์การค้ารับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่า ตามสัญญาเช่าร้านค้ากับศูนย์การค้ามีข้อตกลงที่ทางศูนย์การค้าจะต้องให้บริการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างเพียงพอแก่ผู้เช่า ซึ่งรวมถึงระบบไฟส่องสว่างด้วย ประกอบกับที่ศูนย์การค้านั้นมีตู้เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ (ATM) ให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดังนั้น การกำหนดเวลาปิดไฟส่องสว่างโดยอัตโนมัติเพียงแค่เวลาสี่ทุ่มทุกวันนั้น ถือเป็นการละเลยในการทำหน้าที่ที่ดีพอในการดูแลลูกค้ารวมถึงผู้เช่า (ลูกจ้างของผู้เช่าด้วย) ซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการเกิดเหตุร้ายขึ้นมาได้ง่ายจากการที่ไม่มีระบบไฟส่องสว่างทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะอาจมีคนเข้ามาใช้บริการตู้เอทีเอ็มได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว และในที่สุดก็ได้เกิดเหตุร้ายแก่โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้านค้าผู้เช่าดังกล่าว อันสืบเนื่องจากการไม่มีระบบไฟส่องสว่างจนทำให้คนร้ายฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุขึ้นมา

ศูนย์การค้าในฐานะจำเลยได้ต่อสู้ว่า เดิมทีได้มีข้อตกลงกับผู้จัดการร้านคนเก่าให้ตั้งเวลาปิดไฟส่องสว่างถึงเวลาห้าทุ่มช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะปิดไฟเวลาสี่ทุ่มตามปกติ หรือช่วงเวลาสุดสัปดาห์อาจเผื่อเวลาล่าช้าออกไปสิบห้านาทีบ้าง ดังนั้น ทางร้านของโจทก์ควรต้องกำหนดเวลาปิดทำการให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้มีเวลาเคลียร์งานได้ทันก่อนไฟฟ้าจะดับ เรื่องนี้จึงถือเป็นหน้าที่ของนายจ้างของโจทก์มากกว่าในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ลูกจ้างของตน มิใช่เป็นหน้าที่ของจำเลย

ศาลชั้นต้นได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ลานจอดรถของศูนย์การค้าได้เปิดโอกาสให้ใครเข้ามาใช้บริการจอดรถก็ได้ ฉะนั้น ศูนย์การค้าจึงมีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ทุกคนที่นำรถเข้ามาจอดตลอดเวลา และไม่จำกัดเพียงลูกค้าของศูนย์การค้าเท่านั้น ลูกจ้างของร้านค้าเช่าถือเป็นผู้เข้ามาใช้บริการที่ควรได้รับการดูแลไม่แตกต่างกัน และหากมีคนเข้ามาใช้บริการตู้เอทีเอ็มช่วงกลางดึก ก็อาจมีความเสี่ยงภัยที่พอคาดการณ์จากคนร้ายได้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ศาลชั้นต้นจึงเห็นว่า จำเลยมีความผิดละเลยไม่ทำหน้าที่ดังกล่าวของตนอย่างเพียงพอ ซึ่งสามารถป้องกันได้อย่างง่ายเพียงแค่ปรับเวลาปิดไฟส่องสว่างให้ยืดยาวออกไปเท่านั้น จำเลยจำต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้อง

ฝ่ายจำเลยยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์มีความเห็นว่า หน้าที่ของศูนย์การค้าในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ลูกค้านั้น หมายถึง การจัดการดูแลในสิ่งที่ตนสามารถควบคุมได้ และสามารถคาดคะเนได้ มิใช่ต้องจัดการดูแลอย่างกว้างขวางโดยไม่มีขอบเขตเลย มิฉะนั้น จะสร้างภาระสูงจนเกินไปอย่างมากให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่นั้น ความรับผิดที่จะมีขึ้นได้นั้นถือเป็นเรื่องส่วนตน มิใช่เป็นการไปรับผิดแทนคนอื่นทุกเรื่องราว เว้นเสียแต่กรณีที่มีความสัมพันธ์พิเศษระหว่างกัน เป็นต้นว่า พ่อแม่กับลูก นายจ้างกับลูกจ้าง ซึ่งกฎหมายจะบัญญัติให้รับผิดแทนกันได้ เพราะถือว่า พ่อแม่สามารถควบคุมลูกของตนได้ เช่นเดียวกับนายจ้างกับลูกจ้าง 

ขณะที่กรณีการกระทำของคนร้ายนั้น ไม่สามารถควบคุมได้ และคาดคะเนได้ลำบาก ถึงแม้อาจเคยมีเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาพอเทียบเคียงได้ก็ตาม แต่จะต้องมีความชัดเจนเพียงที่จะพิสูจน์ให้ศาลรับฟังด้วยเหตุและผลได้ 

ในคดีนี้ การที่โจทก์อ้างว่า เหตุที่ปราศจากไฟส่องสว่างเป็นผลทำให้ตนเองถูกคนร้ายกระทำร้ายนั้น ก็ไม่อาจยืนยันได้อย่างชัดเจนเช่นนั้นจริง เพราะคนร้ายอาจเข้ามากระทำความผิดขณะที่ยังมีไฟส่องสว่างก็ได้เช่นกัน

ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยว่า กรณีจึงยังไม่อาจรับฟังได้เพียงพอว่า จำเลยละเลยหน้าที่ของตนดังกล่าวอ้าง ทั้งสาเหตุกับผลที่เกิดขึ้นยังไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างชัดเจน ฉะนั้น จำเลยไม่มีความรับผิดในคดีนี้

(อ้างอิงและเรียบเรียงมาจากคดี Modbury Triangle Shopping Centre Pty Ltd v Anzil [2000] HCA 61

ตอนหน้าจะเป็นบทสรุปของเรื่องนี้ โดยยกตัวอย่างคดีศึกษาความรับผิดของบ้านเรามาเทียบเคียง

บริการ
-     รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
-     รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com

อ่านบทความอีกชุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น