(ตอนที่สอง)
อันที่จริงในคดี Coxe v. Employers Liability Assurance Corp., 1916, 2
K.B. 629
ศาลยังอธิบายเพิ่มเติมถึงเจตนารมณ์ของผู้ร่างกรมธรรม์ประกันภัย
ซึ่งเขียนข้อยกเว้นเรื่องภัยสงครามให้ครอบคลุมถึงสาเหตุโดยตรง หรือโดยอ้อม
โดยเฉพาะคำว่า “สาเหตุโดยอ้อม” นั้น
คงเจตนาที่จะให้มีการวางกรอบของสถานการณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ณ ที่ใดที่หนึ่ง
มิใช่เพื่อให้ปราศจากขอบเขตใด ๆ เลย ดังเช่นในคดีนี้
หากผู้เอาประกันภัยถูกฟ้าผ่าตายภายในกองทหาร คงพูดไม่ได้ว่า
การเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัยนั้นมีสาเหตุโดยอ้อมมาจากภัยสงคราม
อันทำให้ตกอยู่ในข้อยกเว้นดังกล่าว แต่ขอบเขตของสถานการณ์จะอยู่ขนาดไหนนั้น
จำต้องอาศัยการพินิจพิเคราะห์ด้วยเหตุและผลประกอบเป็นสำคัญ ไม่สามารถกำหนดช่วงเวลา
หรือระยะทางที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจนตายตัวลงไปได้ ฉะนั้น คำว่า “สาเหตุที่ห่างไกล (Remote
Cause)” อาจไม่ได้สื่อความหมายเช่นนั้นจริง ความยากลำบากในการตีความน่าจะอยู่ตรงจุดนี้ล่ะครับ
มิฉะนั้นแล้ว ก็จะกลายเป็นคนละเรื่อง คนละเหตุการณ์ไป
คดีเก่าอีกคดีหนึ่ง
ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยพร้อมให้เหตุผลน่ารับฟังอย่างยิ่งในประเด็นนี้ คือ คดี Pacific Club v.
Commercial etc. Co., 12 Cal. App. 503 (Cal.
Ct. App. 1910) เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ณ
กรุงซานฟรานซิสโก เมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1906 แล้วส่งผลทำให้ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยของผู้เอาประกันภัยได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ที่ลุกลามต่อเนื่องมาจากจุดอื่นในวันถัดมา
เนื่องจากกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยของผู้เอาประกันภัย
แม้ระบุคุ้มครอง “ความสูญเสีย หรือความเสียหายโดยตรงจากไฟไหม้
เว้นแต่จะได้มีการกำหนดข้อยกเว้นไว้เป็นอย่างอื่นในที่นี้” แต่มีข้อยกเว้นข้อหนึ่งได้ระบุว่า
“บริษัทจะไม่จำต้องรับผิดสำหรับความเสียหาย อันมีสาเหตุโดยตรง หรือโดยอ้อมมาจาก
.... แผ่นดินไหว ....”
ถ้อยคำที่เขียนข้างต้นนั้น
มีความหมายอย่างไร? มันจะสื่อถึง บริษัทประกันภัยไม่จำต้องรับผิดต่อความสูญเสีย
หรือความเสียหายใด ๆ จากไฟไหม้ หากแผ่นดินไหวทำให้ท่อน้ำประปาใหญ่แตก
จนไม่มีน้ำให้พนักงานดับเพลิง หรือคนอื่นใดไปทำการดับไฟอย่างที่ถูกกล่าวอ้างในคดีนี้ด้วยหรือไม่?
หรือกระทั่งหมายความถึงแผ่นดินไหวทำให้อุปกรณ์ดับเพลิง เสียหายใช้การไม่ได้ หรือพนักงานดับเพลิงต้องเสียชีวิตลง
หรือถนนหนทางเสียหายจนไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงได้กระนั้นหรือ? ผลสืบเนื่องเหล่านี้ค่อนข้างถือเป็นสาเหตุที่ห่างไกล
(too remote)
จนเกินไป ศาลจึงไม่อาจพิจารณาได้ว่า
แผ่นดินไหวเป็นสาเหตุโดยอ้อมจากความเสียหายของไฟไหม้ได้
บริษัทประกันภัยพูดถูก
ตรงที่ว่า “สาเหตุโดยตรง หรือโดยอ้อม (direct or indirect cause)” นั้น
หมายความถึง “สาเหตุใกล้ชิด หรือสาเหตุที่ห่างไกล (proximate or remote
cause)”
ฉะนั้น จึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย ซึ่งมีแผ่นดินไหวเป็นสาเหตุที่ห่างไกลดังกล่าว
คู่ความทั้งสองฝ่ายล้วนยกเหตุผลของตนขึ้นมาสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตนเอง ศาลไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องมาค้นหาความหมายที่แท้จริงเพียงแค่สิ่งใดถือเป็น
“สาเหตุโดยตรง” อันหมายถึง “สาเหตุใกล้ชิด” หรือ “สาเหตุโดยอ้อม”
หมายความถึง “สาเหตุที่ห่างไกล” เท่านั้น ศาลเห็นว่า ข้อยกเว้นเรื่องแผ่นดินไหวนั้น
ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้เกิดผลโดยทางตรง หรือโดยทางอ้อมในการทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นมาเท่านั้น
และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปพิจารณากันอีกว่า ความเสียหายนั้นมีสาเหตุมาจากแผ่นดินไหวหรือไม่
เพราะมันมิได้เป็นสาเหตุโดยตรงในเหตุข้อพิพาทกันนี้เลย ทั้งศาลก็ไม่เชื่อว่า
มีคู่ความฝ่ายใดจะคาดคิดได้ว่า แผ่นดินไหวจะรุนแรงถึงขนาดทำให้ปราศจากน้ำไปดับไฟ
จริงอยู่
ในหลายคดีจากเหตุการณ์นี้ บริษัทประกันภัยหลายแห่งชนะคดี เพราะสามารถชี้ชัดได้ว่า
แผ่นดินไหวเป็นสาเหตุโดยตรงทำให้เกิดไฟไหม้ (แผ่นดินไหวทำให้เตาที่มีไฟล้มลงมา
เป็นต้น) แต่หลายคดีก็ทำไม่สำเร็จดังในคดีนี้ ซึ่งกล่าวอ้างเพียงแผ่นดินไหว
เป็นสาเหตุโดยอ้อมในการทำให้เกิดไฟไหม้ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยนี้ เนื่องจากทำให้ท่อน้ำใหญ่แตกเสียก่อน
จนไม่มีน้ำไปดับไฟที่กำลังลุกลามไปถึงสถานที่ของผู้เอาประกันภัย
เรื่องต่อไป
เราจะมาคุยกันถึงความหมายของคำว่า “ความสูญเสีย หรือความเสียหายโดยตรง (Direct Loss or Damage)” กันแล้วครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น