วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เรื่องที่ 24 : ความเสียหายต่อเนื่อง (Subsequent Damage) กับความเสียหายที่ติดตามมา (Ensuing Loss) มีความหมายต่างกัน หรือเหมือนกัน





ในกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิดสำหรับทรัพย์สินฉบับมาตรฐานของประเทศอังกฤษ ซึ่งเรียกว่า “Blue Book” ที่ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า “Subsequent DAMAGE (ความเสียหายต่อเนื่อง)” แทนEnsuing Loss (ความเสียหายที่ติดตามมา)” นั้น ปัจจุบันยังมิได้พบคดีพิพาทกันถึงการตีความของความหมายนี้ แต่กลับไปพบคำวินิจฉัยของศาลในประเทศออสเตรเลียแทน 

ในคดี Prime Infrastructure (DDCT) Management Pty Ltd v Vero Insurance Limited [2005] QCA 369 โดย Prime ผู้เอาประกันภัยได้เอาประกันภัยสิ่งปลูกสร้างกับเครื่องจักรของตนไว้ภายใต้กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิดกับ Vero บริษัทประกันภัย ระหว่างการใช้ตัวกวาด (reclaimer) เพื่อจะตักกองถ่านหินไปใส่สายพานลำเลียงลงเรือ ตัวกวาดนั้นเกิดพังลงมาทำให้สายพานลำเลียงเสียหายไปด้วย

จากการตรวจสอบ ทั้งผู้เอาประกันภัยกับบริษัทประกันภัยเห็นพ้องกันว่า ตัวกวาดนั้นพังลงมาด้วยสาเหตุรอยเชื่อมไม่ดี (defective weld) ที่ขาข้างหนึ่งของเครื่อง ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นมาจากฝีมือแรงงานไม่ดี (faulty workmanship) มาตั้งแต่การก่อสร้าง หรือการติดตั้งเครื่องนี้ และเมื่อใช้งานไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงส่งผลนี้ขึ้นมาในที่สุด ผู้เอาประกันภัยจึงเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น

แต่บริษัทประกันภัยปฎิเสธความรับผิดเนื่องจากตกอยู่ในสาเหตุที่ยกเว้นภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ที่ระบุว่า 

ไม่คุ้มครองความสูญเสีย ความวินาศ หรือความเสียหายทางกายภาพ อันเนื่องมาจาก หรือเกิดขึ้นมาจากวัสดุที่บกพร่อง (faulty materials) หรือฝีมือแรงงานไม่ดี (faulty workmanship)   

ทั้งนี้ โดยมีเงื่อนไขว่า จะไม่มีผลใช้บังคับแก่ความสูญเสีย ความวินาศ หรือความเสียหายที่ต่อเนื่อง (subsequent) ต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัย จากภัย (ที่มิได้ระบุยกเว้นเอาไว้เป็นอย่างอื่น) ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุ หรือภัยที่ได้กำหนดไว้ในข้อยกเว้นนี้ 

ศาลอุทธรณ์ในประเทศออสเตรเลียวินิจฉัย ดังนี้

   1) ผู้เอาประกันภัยมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครอง สำหรับความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นมาจากความเสียหายต่อเนื่อง อันมีสาเหตุมาจากฝีมือแรงงานไม่ดี
    2)  เมื่อลักษณะ และช่วงเวลาของข้อบกพร่องสามารถแยกออกได้จากความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากข้อบกพร่องนั้นเอง จึงถือเป็น “ความเสียหายต่อเนื่อง (subsequent damage)
    3)  หากเกิดความเสียหายต่อเครื่องจักรเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาหนึ่งไปแล้ว ความเสียหายแรกของตัวเครื่องจักรเองอาจยังคงไม่คุ้มครอง แต่ความเสียหายต่อเนื่องใด ๆ ต่อตัวเครื่องจักรนั้น (หรือทรัพย์สินที่เอาประกันภัยอื่น) ก็อาจได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยได้

จากคดีนี้จะเห็นได้ว่า ศาลตีความของความเสียหายต่อเนื่อง (Subsequent Damage) ต้องเป็นเหตุการณ์ที่แยกอิสระจากภัยยกเว้นที่เกิดขึ้นเป็นลำดับแรกเหมือนกับทฤษฏีแรกของความเสียหายที่ติดตามมา (Ensuing Loss) นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น