เรื่องที่ 84:ลูกจ้างนำรถส่วนตัวไปซ่อม ณ ที่ทำงาน
เกิดไฟลุกไหม้ลามไปยังข้างเคียง กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของลูกจ้างต้องรับผิดไหม?
คำธรรมดาที่ว่า อุบัติเหตุจาก
“การใช้รถ หรือการใช้งาน (Use or Operation of Vehicle)” ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ฟังดูแล้วเสมือนเข้าใจง่าย แต่ความจริงอาจจะมิเป็นเช่นนั้นก็ได้
เรามาลองพิจารณาคดีนี้กันหน่อย
ที่ประเทศอังกฤษ ชายคนหนึ่งทำงานเป็นช่างอยู่โรงงานแห่งหนึ่ง
บังเอิญถึงกำหนดจะต้องนำรถยนต์ของตนไปตรวจสภาพ พอคาดคะเนดูแล้ว น่าจะมีปัญหาไม่ผ่านเกณฑ์อยู่หลายจุด
ครั้นจะนำเข้าอู่ซ่อมแซมเสียก่อน ก็เป็นภาระทางการเงินไม่น้อย ตนเองก็มีฝีมือทางช่างอยู่แล้ว
และที่โรงงานพอมีอุปกรณ์เครื่องมือที่สามารถหยิบยืมมาใช้ได้ หากนายจ้างจะใจดีอนุญาตให้
ซึ่งนายจ้างแสนดีก็ไม่ขัดข้องจริง ๆ เมื่อมีการเอ่ยปากขอ
วันที่เกิดเหตุ ลูกจ้างรายนี้นำรถของตนมาที่โรงงาน
เพื่อจะทำการปะผุตัวถังรถบางจุด ได้ใช้รถโฟลค์ลิฟท์มายกรถของตนขึ้นเพื่อดำเนินการ ขณะที่กำลังใช้ไฟตัดเชื่อมอยู่นั้น
ประกายไฟเกิดกระเด็นไปติดวัสดุไวไฟที่ตัวรถ เกิดไฟลุกอย่างรวดเร็วและอย่างรุนแรง ลามออกไปไหม้ยังบางส่วนของโรงงาน
รวมทั้งลามไปติดทรัพย์สินของบุคคลอื่นที่ตั้งอยู่ข้างเคียงได้รับความเสียหายอีกด้วย
เป็นโชคดีที่เจ้าของโรงงานผู้แสนดีได้มีกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกอยู่
ได้ไปแจ้งให้บริษัทประกันภัยของตนมาชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกที่อยู่ข้างเคียงเหล่านั้นจนเรียบร้อยไม่มีปัญหา
ทีนี้บริษัทประกันภัยดังกล่าวได้รับช่วงสิทธิจากเจ้าของโรงงานมาไล่เบี้ยเอากับลูกจ้างรายนี้
ซึ่งยังมีโชคดีกับเขาอยู่บ้างที่ตนเองก็มีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
ภาคสมัครใจคุ้มครองอยู่ จึงไปเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ของตนมารับผิดชอบแทน
แต่ได้รับการตอบกลับมาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยู่ในความคุ้มครอง
เนื่องจากคำว่าอุบัติเหตุจาก “การใช้รถ หรือการใช้งาน”
ที่จะให้ความคุ้มครองได้นั้น มิได้หมายความรวมถึงการซ่อมแซมรถด้วย
เรื่องจึงมาถึงศาลเพื่อตัดสินว่า
คำว่า “การใช้รถ หรือการใช้งาน” นั้นมีความหมายเช่นใดกันแน่?
ก) หมายความถึงเพียงการใช้รถ
หรือการใช้งานตามปกติทั่วไปในการขนคน หรือขนสิ่งของไปตามท้องถนนจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางเท่านั้นใช่หรือไม่?
ข) การยกรถซ่อมแซมที่เกิดขึ้นนี้
ถือเป็นการใช้รถ หรือการใช้งานด้วยหรือไม่?
คดีนี้ได้ต่อสู้กันถึงศาลสูงของประเทศอังกฤษ
ซึ่งมีความเห็นว่า
ประเด็นข้อ ก) ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ฉบับนี้มิได้กำหนดคำจำกัดความเฉพาะเอาไว้
การตีความแคบเช่นนั้นไม่อาจรับฟังได้
ประเด็นข้อ ข) การใช้งานนั้นหมายความรวมถึงการซ่อมแซมด้วย
เพราะการใช้รถปกติทั่วไปนั้น บางครั้งอาจจำต้องมีการบำรุงรักษา
หรือการซ่อมแซมเพื่อให้รถสามารถคงสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การซ่อมแซม
หรือการบำรุงรักษาจะต้องสอดคล้องกับการใช้รถ หรือการใช้งานตามปกติทั่วไปเช่นกัน กล่าวคือ จำกัดเพียงการซ่อมแซม หรือการบำรุงรักษาตามปกติทั่วไปเท่านั้น
สำหรับการซ่อมแซมที่เกิดเหตุขึ้นมาครั้งนี้
ศาลไม่เห็นพ้องว่า เป็นการซ่อมแซมตามปกติทั่วไป ศาลเห็นว่า ขณะเกิดเหตุ
รถถูกยกลอยขึ้น ไม่พร้อมอยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติทั่วไป ไฟไหม้นี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้ซ่อมแซมโดยปราศจากการใช้ความระมัดระวังตามสมควร
จึงตัดสินให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ไม่ต้องรับผิด
(อ้างอิงจากคดี UK Insurance Limited v. (1) Thomas Holden (2) R & S Piling (trading as Phoenix Engineering) [2016] EWHC 264 (QB))
แนวทางการตีความของศาลต่างประเทศ
แต่ละประเทศดังเช่น ประเทศอังกฤษ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ประเทศคานาดา อาจจะมีมุมมองแตกต่างกันไปตามดุลยพินิจ
ประกอบกับข้อความจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณี เช่นเดียวกับของบ้านเรา ดังนั้น จึงโปรดใช้วิจารญาณนะครับ
เรื่องต่อไป
ใครที่จะคิดนอนในรถ โปรดอ่านเรื่องนี้ก่อนเป็นอุทาหรณ์
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย):
เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่
https://www.facebook.com/pomamornkul/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น