(ตอนที่สอง)
ศาลฏีกาวินิจฉัยคดีนี้ว่า
ประเด็นข้อถกเถียงเรื่อง
1) ปัจจัยของอุบัติเหตุ (accidental
means) ซึ่งมองจากต้นเหตุเป็นหลักที่จะต้องมีสาเหตุมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายนอก
อย่างฉับพลัน รุนแรง และเป็นสิ่งที่ผู้เอาประกันภัยมิได้เจตนา หรือมุ่งหวัง
จนส่งผลทำให้เกิดการเสียชีวิต กับ
2) ผลของอุบัติเหตุ
(accidental
result) ซึ่งมองจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นหลักที่จะต้องเป็นผลจากภายนอก
อย่างฉับพลัน รุนแรง และเป็นสิ่งที่ผู้เอาประกันภัยมิได้เจตนา หรือมุ่งหวัง
แม้จะมีต้นเหตุมาจากความสมัครใจก็ตาม
เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาไม่รู้จบ
แต่ครั้นอาศัยความเข้าใจของคนทั่วไปถึงความหมายของอุบัติเหตุแล้ว
การเสียชีวิตของผู้ตายในกรณีนี้น่าจะเป็นอุบัติเหตุแล้ว
เพราะเป็นสิ่งที่ผู้ตายคงไม่ได้เจตนา หรือมุ่งหวังมาก่อน ทั้งผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ก็มิได้พบความผิดปกติทางสภาวะร่างกายของผู้ตายแต่ประการใด
อันจะส่งผลทำให้ร่างกายไม่อยู่ในสมรรถภาพต้านทานต่อความร้อนแรงของแสงแดดได้
หรือมีสาเหตุอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นสภาวะอากาศที่ผิดปกติ หรือสภาพแวดล้อมใด ๆ
ที่เกิดขึ้นมาสอดแทรกจนส่งผลกระทบต่อสภาวะร่างกายของผู้ตาย ดังนั้น
ปัจจัยภายนอกในกรณีนี้ คงมีกรณีเดียวที่ชัดเจน คือ แสงแดดเท่านั้น
แม้ในทางการแพทย์จะถือโรคลมแดด (sunstroke) เป็นโรค
แต่คนทั่วไปก็มองสาเหตุการตายเป็นอุบัติเหตุอยู่ดี
ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน รุนแรง โดยผู้เอาประกันภัยมิได้เจตนา
หรือมุ่งหวัง ถ้าต้นเหตุมิใช่มาจากอุบัติเหตุ ผลลัพธ์ที่ได้รับ
ก็คงมิใช่จากอุบัติเหตุเช่นกัน ฉะนั้น
ทั้งสองคำเรื่องเหตุกับผลนั้นไม่อาจแยกขาดจากกันได้โดยเด็ดขาด เพราะถ้าไม่มีเหตุ ก็คงไม่มีผล
เมื่อฝ่ายบริษัทประกันภัยมิอาจพิสูจน์สาเหตุการตายให้เห็นเป็นอย่างอื่นได้
และเมื่อคำว่า “อุบัติเหตุ” ดูเสมือนตีความได้หลายนัย จึงจำต้องยกประโยชน์ให้แก่ฝ่ายผู้เอาประกันภัย
ในที่นี้ คือ ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยนั่นเอง
(อ้างอิงจากคดี Landress v. Phoenix Mut. Life Ins. Co., 291 U.S. 491
(1934))
เช่นกันครับ
แม้คดีนี้ค่อนข้างเก่า แต่อยากให้พิจารณาถึงเหตุและผลของคำวินิจฉัยของคดีมากกว่า
เพราะประเด็นในการใช้ดุลพินิจของศาลต่างประเทศตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มักจะวนเวียนอยู่โดยอาศัยสามทฤษฏีเป็นเกณฑ์
กล่าวคือ ทฤษฏีของเหตุ (Cause Theory) เช่น คดีมีเพศสัมพันธ์จนติดโรคร้าย หรือทฤษฏีของผล (Effect
Theory) เช่น คดีถูกยุงกัดจนได้รับเชื้อโรคร้าย หรือทฤษฏีเหตุการณ์แห่งความโชคร้าย
(Unfortunate Events Theory) เช่น
คดีกระบะรถดัมพ์เกี่ยวสะพานตกลงมาทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อเนื่องดังที่เคยกล่าวมาแล้วในบทความที่ผ่านมา
ดังนั้น
จึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลท่านเป็นสำคัญในการพิจารณาประกอบกับข้อความจริงของแต่ละคดีที่เกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น