วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เรื่องที่ 45 : การประกันภัยออนไลน์ เรื่องส่วนได้เสียอันอาจเอาประกันภัยได้ และการปกปิดข้อความจริงกับการแถลงข้อความนั้นเป็นเท็จ



(ตอนที่สอง)

ประเด็นข้อพิพาทเรื่องนี้ คือ

1) ผู้เอาประกันภัยมีส่วนได้เสียหรือไม่?
2) ผู้เอาประกันภัยแถลงข้อความเท็จหรือไม่?

ในประเด็นแรก บริษัทประกันภัยให้การว่า ผู้เอาประกันภัยแม้เป็นภรรยาตามกฎหมาย แต่มิได้มีชื่ออยู่ในเอกสารสิทธิของบ้านหลังที่เอาประกันภัย จึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในอันที่จะเอาประกันภัยบ้านหลังนี้ได้

ส่วนประเด็นที่สอง ในใบคำขอเอาประกันภัยทางออนไลน์ ซึ่งคำถามข้อหนึ่งถามว่า “คุณเป็นเจ้าของบ้าน และพักอาศัยอยู่ในบ้านกับครอบครัวของคุณหรือเปล่า?” ถ้าภรรยาซึ่งขอเอาประกันภัยได้เลือกคำตอบเป็น “ไม่” ในหน้าเวปก็จะขึ้นคำถามใหม่ให้เลือกว่า คุณมีส่วนได้เสียอะไรบ้างในทรัพย์สินที่ขอเอาประกันภัย แต่เนื่องด้วยภรรยานั้นได้เลือกตอบคำถามข้างต้นว่า “ใช่” บริษัทประกันภัยจึงเข้าใจว่า ภรรยานั้นมีส่วนได้เสียเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นจริง แท้ที่จริงแล้วกลับไม่ใช่ เพราะในเอกสารสิทธิระบุชื่อสามีเพียงผู้เดียวเท่านั้น 

การแถลงข้อความอันเป็นเท็จเช่นนี้ ส่งผลทำให้สัญญาประกันภัยระหว่างภรรยาผู้เอาประกันภัยกับริษัทประกันภัยตกเป็นโมฆียะ เมื่อบริษัทประกันภัยใช้สิทธิบอกล้าง สัญญาประกันภัยก็ตกเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มต้น เหตุแห่งความเสียหายของบ้านหลังที่เอาประกันภัยนี้จึงไม่อยู่ในความรับผิดของบริษัทประกันภัยที่จะต้องชดใช้ให้ตามสัญญาประกันภัย

ฝ่ายภรรยาซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยแย้งว่า ในคำถามที่เป็นประเด็นนั้น จะประกอบด้วยคำถามย่อยสองข้อ คือ คำถามแรก คุณเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่? และคำถามที่สอง คุณพักอาศัยอยู่ในบ้านกับครอบครัวของคุณหรือเปล่า? แต่ในคำตอบกลับมีให้เลือกเพียง “ใช่” หรือ “ไม่” เท่านั้น ถ้าผู้เอาประกันภัยเลือกตอบว่า “ไม่” ดังที่บริษัทประกันภัยกล่าวอ้าง จะกลายเป็นว่า ผู้เอาประกันภัยแถลงข้อความเท็จอยู่ดี เพราะแม้ผู้เอาประกันภัยจะมิใช่เจ้าของบ้านตามเอกสารสิทธิ แต่ก็พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นจริง ๆ 

ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกคำตอบใด ล้วนใช้ไม่ได้ คำถามของบริษัทประกันภัยไม่มีความชัดเจน การมาอาศัยเหตุดังกล่าวมาบอกล้างสัญญาประกันภัยจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ส่วนประเด็นเรื่องส่วนได้เสียนั้น แม้ภรรยาจะไม่มีชื่ออยู่ในเอกสารสิทธิ แต่การมาทำประกันภัยก็เป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของสามีซึ่งมีชื่ออยู่ในเอกสารสิทธิดังกล่าว เนื่องจากคู่สามีภรรยาเห็นชอบร่วมกันล่วงหน้าแล้วว่า บ้านหลังนี้ควรจัดทำประกันภัยคุ้มครองไว้   

เมื่อศาลได้รับฟังจากคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้ว มีความเห็นพ้องกับฝ่ายผู้เอาประกันภัย และตัดสินให้บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยตามสัญญาประกันภัย

คดีนี้เป็นอุทาหรณ์แก่บริษัทประกันภัยว่า การทำประกันภัยทางออนไลน์นั้นควรร่างคำถามคำตอบให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ เนื่องจากมิได้มีโอกาสมาพูดคุยซักถามในรายละเอียดกันได้อย่างเช่นการเจอหน้า หรือพูดคุยโต้ตอบกันทางโทรศัพท์

อ้างอิงจากคดี Gonzales & Barrett v The Hollard Insurance Company Pty Ltd [2016] NSWLC 9

คุณได้รับคำตอบเรื่องนี้ตรงตามที่คิดไว้บ้างหรือเปล่าครับ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น