วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

เรื่องที่ 41 : ความหมายของการใช้รถ ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ควรมองให้แคบ หรือกว้าง



(ตอนที่สอง)

สำหรับคดีในประเทศแคนาดา เรื่องราวมีอยู่ว่า สุภาพสตรีรายหนึ่งพาลูกสาวติดรถยนต์ไปแวะที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยเจ้าตัวจอดรถลงไปซื้อ ให้ลูกสาวนั่งรออยู่ในรถ จู่ ๆ ก็มีคนร้ายกลุ่มหนึ่งขับรถยนต์ผ่านมาจอดตรงด้านหน้าของร้านอาหารแห่งนั้น แล้วระดมยิงปืนเข้าไปในร้านอาหารแห่งนั้น ปรากฏว่า สุภาพสตรีโชคร้ายรายนี้ถูกกระสุนปืนบริเวณกระดูกสันหลัง ส่งผลทำให้เกิดภาวะอัมพาตของร่างกายส่วนล่าง

ประเด็นปัญหาก็เช่นเดียวกัน คือ การยิงปืนจากรถยนต์ของคนร้าย ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจาก “การใช้รถ” หรือไม่?

คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีความเห็นว่า การตีความหมายของการใช้รถ ควรหมายความถึงการนำรถไปใช้ตามปกติทั่วไป มากกว่าที่จะรวมไปถึงการนำรถยนต์ไปใช้ขนอาวุธปืนนำไปยิงทำร้ายคน และใช้เป็นพาหนะหลบหนี ดังนั้น การยิงปืนจึงถือเป็นเหตุการณ์ที่แยกต่างหากออกมาจากการใช้รถ

ศาลอุทธรณ์แม้จะเห็นว่า การใช้รถไม่น่าจำกัดอยู่เพียงการนำรถไปใช้ตามปกติทั่วไปเท่านั้น เพราะรถอาจถูกใช้ในทางที่ผิดกฎหมายก็ได้ตราบเท่าที่มิได้ถูกระบุยกเว้นไว้อย่างชัดแจ้งในกรมธรรม์ประกันภัย แต่ศาลอุทธรณ์ก็เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่า การใช้รถกับการยิงปืนควรถือเป็นสองเหตุการณ์แยกต่างหากจากกัน เมื่อผู้ประสบภัยรายนี้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากกระสุนปืน จึงมิใช่เกิดขึ้นมาจากการใช้รถ
(อ้างอิงคดี Russo v. John Doe (2009), 95 O.R. (3d) 138, [2009] O.J. No. 1481)

จากคำพิพากษาของทั้งสองคดี จะเห็นได้ว่า ศาลอาศัยทฤษฎีในการวินิจฉัยที่แตกต่างกัน ศาลในประเทศสหรัฐพิจารณาจากสาเหตุ ขณะที่ศาลประเทศแคนาดาพิจารณาจากผลที่เกิดขึ้น

แล้วการใช้ความรุนแรงบนท้องถนน (Road Rage) อันเนื่องมาจากการใช้รถ ใช้ทาง จนนำไปสู่การทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันขึ้นมาล่ะ ผลทางคดีจะเป็นเช่นไร? อดใจรอในตอนที่สามครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น