เรื่องที่ 231 : นายหน้าประกันวินาศภัยจัดกรมธรรม์ประกันภัยซ้ำซ้อนสามฉบับ (Triple Insurance) ให้แก่ลูกค้า จำต้องรับผิดอย่างไร? และยังได้ก่อให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ในการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Contribution Method) ด้วย
เมื่อมีกรมธรรม์ประกันภัยหลายฉบับให้ความคุ้มครองซ้ำซ้อนแก่ความเสียหายเดียวกัน จะตกอยู่ภายใต้หลักการประกันภัยว่าด้วยการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Principle of Contribution) ซึ่งภาษากรมธรรม์ประกันภัยอาจเรียกว่า “การประกันภัยซ้ำซ้อน (Double/Dual Insurance)” อันที่จริงควรเรียก “การประกันภัยหลายราย (Multiple Insurances)” มากกว่า เพราะอาจมีมากกว่าสองฉบับก็ได้ หรือกระทั่งเรียก “การประกันภัยอื่น (Other Insurance)” ก็มี
ดั่งที่เคยเขียนไว้ในบทความเรื่องที่ 13 ข้อยกเว้นที่ 14 ของกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน เมื่อปี พ.ศ. 2558 ขอยกข้อความบางส่วนมากล่าวซ้ำอีกครั้ง การประกันภัยทุกราย หรือทุกฉบับนั้นจะต้องเข้ามาร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยวิธีการอาจเป็นลำดับกัน หรือพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้ เพื่อมิให้ผู้เอาประกันภัยได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินไปกว่าความเสียหายที่แท้จริง อันเป็นไปตามหลักการประกันภัยในเรื่องการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเป็นจริง (Principle of Indemnity) หรือวงเงินความคุ้มครองรวมทั้งหมด แต่ในทางปฎิบัติแล้ว วิธีการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น อาจมีความซับซ้อน และยุ่งยากกว่าที่คิด ด้วยเหตุนี้ ในประเทศอังกฤษ และประเทศต่าง ๆ จึงได้เปิดโอกาสให้สามารถมีการกำหนดเงื่อนไขเป็นพิเศษเรื่องการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Contribution Conditions) ไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ให้มีความแตกต่างจากหลักการประกันภัยปกติทั่วไปดังกล่าว ซึ่งสามารถจำแนกเงื่อนไขออกได้ดังนี้
1) เงื่อนไขข้อห้าม (Escape Clauses)
เป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยฉบับแรก โดยห้ามมิให้ผู้เอาประกันภัยไปทำประกันภัยฉบับอื่นมาซ้ำซ้อนกัน โดยปราศจากความเห็นชอบจากผู้รับประกันภัยรายแรกเสียก่อน
2) เงื่อนไขการไม่ร่วมชดใช้กับกรมธรรม์ประกันภัยอื่น (Other Non-contribution Clauses)
เป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่า กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้จะไม่คุ้มครอง หากผู้เอาประกันภัยมีกรมธรรม์ประกันภัยฉบับอื่นที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายเดียวกัน
3) เงื่อนไขการประกันภัยอื่นโดยเฉพาะเจาะจง (More Specific Insurance Clauses)
เป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่า กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้จะให้คุ้มครองเป็นส่วนเกินจากกรมธรรม์ประกันภัยโดยเฉพาะเจาะจงฉบับอื่น
4) เงื่อนไขการร่วมชดใช้ตามส่วน (Rateable Proportion Clauses)
เป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่า จะร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามส่วนกับกรมธรรม์ประกันภัยฉบับอื่น ซึ่งเคยได้เขียนไว้เช่นกันในคู่มือปฏิบัติงานสำหรับนายหน้าประกันวินาศภัยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย บทที่ 2 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าประกันวินาศภัย นว. 2 เรื่องที่ 2.5 หลักการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยขอถอดข้อความบางส่วนมาดังนี้
คำว่าร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามส่วนมากน้อยที่ผู้รับประกันภัยแต่ละรายรับประกันภัยไว้นั้น มิได้มีการกำหนดคำนิยามเอาไว้ ในทางปฏิบัติจะทำได้ 2 วิธีย่อย คือ
4.1) วิธีตามส่วนจำนวนเงินเอาประกันภัย (Pro Rata to Sum Insured Method or Maximum Liability Method) เป็นการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยแบ่งตามสัดส่วนจำนวนเงินเอาประกันภัยของผู้รับประกันภัยแต่ละราย
4.2) วิธีคำนวณความรับผิดโดยเอกเทศ (Independent Liability Method) เป็นการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในลักษณะเฉลี่ยจากความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละฉบับเป็นอิสระแยกจากกันเสียก่อน จากนั้นค่อยนำความรับผิดของผู้รับประกันภัยแต่ละรายมาคำนวณส่วนเฉลี่ยจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่ผู้รับประกันภัยแต่ละรายจะต้องจ่ายเป็นลำดับถัดไป
วิธีย่อยที่สองนี้ มักนิยมใช้กับการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายกับการประกันภัยทางทะเลและขนส่งมากกว่า
ตัวอย่างคดีศึกษาเรื่องนี้มาจากประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2025 นี้เอง
เมื่อผู้เอาประกันภัยซึ่งประกอบกิจการทรัสต์เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยของตนเป็นจำเลยให้รับผิด อันเป็นผลเนื่องมาจากโทษฐานความพลั้งพลาดสองกรณีดังนี้
ก) กรณีการจัดกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายซ้ำซ้อนกันถึงสามฉบับกับสามบริษัทประกันภัย อันได้แก่
(1) กรมธรรม์ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber Policy) มีวงเงินความคุ้มครองสูงสุดที่ 1 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 43,522,161.48 บาท) ตลอดระยะเวลาประกันภัย (รวมค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี) และวงเงินความรับผิดส่วนแรกที่ 5,000 ปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 217,610.81 บาท) ต่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแต่ละครั้ง และทุกครั้ง
(2) กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดเชิงพาณิชย์ แบบครอบคลุม (Combined Liability Policy) มีวงเงินความคุ้มครองสูงสุดที่ 5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 217,610,807.42 บาท) ตลอดระยะเวลาประกันภัย (รวมค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี) และวงเงินความรับผิดส่วนแรกที่ 500 ปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 21,761.08 บาท) ต่อเหตุการณ์แต่ละครั้ง และทุกครั้ง
(3) กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายทางวิชาชีพ (Professional Indemnity Policy) มีวงเงินความคุ้มครองสูงสุดที่ 5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 217,610,807.42 บาท) ตลอดระยะเวลาประกันภัย (บวกด้วยค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี) และวงเงินความรับผิดส่วนแรกที่ 5,000 ปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 217,610.81 บาท) ต่อการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแต่ละครั้ง และทุกครั้ง
ข) กรณีการให้คำแนะนำที่ผิดพลาดเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ภายหลังเมื่อลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยโจทก์ได้กระทำข้อมูลส่วนบุคคลของทั้งลูกค้ากับพนักงานโจทก์จำนวนมากรั่วไหลออกไปโดยไม่ได้เจตนา จนอาจก่อให้เกิดความรับผิดตามกฎหมายขึ้นมาถึงประมาณ 7.9 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 343,825,075.73 บาท)
โดยบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยจำเลยได้แนะนำให้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพียงจากกรมธรรม์ประกันภัยไซเบอร์เท่านั้น กว่าจะดำเนินการแจ้งเหตุต่ออีกสองบริษัทประกันภัยที่เหลืออีกสองราย ก็ล่วงเลยระยะเวลาแจ้งแล้ว ส่งผลทำให้ทั้งสองบริษัทดังกล่าวต่างปฏิเสธความรับผิด ต่อมาบริษัทประกันภัยรายที่สองเปลี่ยนใจยินยอมรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดเชิงพาณิชย์ แบบครอบคลุมให้ รวมวงเงินความคุ้มครองสูงสุดของกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวทั้งสองฉบับแค่ 6 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 261,132,968.91 บาท) เท่านั้น ไม่เพียงพอแก่โอกาสที่จะถูกเรียกร้องค่าเสียหายสูงเช่นว่านั้นอยู่ดี แต่ถ้าสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้จากบริษัทประกันภัยทั้งสามราย คือ รวมทั้งสิ้น 11 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 478,743,776.33 บาท) ก็มากเกินพอแน่นอน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอให้บริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยจำเลยเข้ามารับผิดสำหรับส่วนที่ขาดหายไปนั้นแทน
บริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยจำเลยได้ต่อสู้ออกเป็นสองประเด็น ดังนี้
1) ประเด็นแรก เนื่องด้วยกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวทั้งสามล้วนกำหนดเงื่อนไขว่าด้วยการประกันภัยอื่นไว้ด้วยถ้อยคำที่แตกต่างกัน กล่าวคือ
(1) กรมธรรม์ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber Policy) จะให้ความคุ้มครองเพียงเป็นส่วนเกินจากการประกันภัยอื่นใดเท่านั้น
(2) กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดเชิงพาณิชย์ แบบครอบคลุม (Combined Liability Policy) หากมีการประกันภัยอื่นคุ้มครองอยู่แล้ว ก็จะให้ความคุ้มครองเพียงเป็นส่วนเกินเท่านั้น โดยไม่เข้าร่วมชดใช้กับการประกันภัยอื่นนั้นด้วย
(3) กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายทางวิชาชีพ (Professional Indemnity Policy) จะไม่ชดใช้ให้ หากมีการประกันภัยอื่นคุ้มครองอยู่แล้ว
ทุกฉบับไม่ปรากฏมีข้อกำหนดการร่วมเฉลี่ยชดใช้ตามสัดส่วนแต่ประการใด
พิจารณาจากเงื่อนไขข้างต้นซึ่งล้วนต่างปัดความรับผิดของตนเอง ผู้เอาประกันภัยโจทก์มีสิทธิเรียกร้องได้อย่างมากเพียงแค่ 5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 217,610,807.42 บาท) ตามที่ได้แนะนำไปเท่านั้น เมื่อสามารถเรียกร้องได้จากกรมธรรม์ประกันภัยทั้งสองฉบับ ก็เกินกว่าที่ควรจะพึงมีสิทธิเช่นว่านั้นแล้ว คำแนะนำดังกล่าวของบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยจำเลยจึงไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายตามสิทธิที่จะพึงได้ของผู้เอาประกันภัยโจทก์เลย
2) ประเด็นที่สอง ถึงแม้นหากสามารถเรียกร้องได้จากบริษัทประกันภัยทั้งสามรายก็ตาม ทุกรายล้วนต่างจำต้องเข้ามาร่วมเฉลี่ยตามสัดส่วนอยู่ดี โดยมีการคำนวณเป็นลำดับ คือ
ค่าสินไหมทดแทน 1 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 43,522,161.48 บาท) แรก แต่ละรายจะรับผิดในอัตราสัดส่วนหนึ่งต่อสามเท่ากันทุกราย เท่ากับรายละ 333,333 ปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 14,507,372.65 บาท)
ลำดับถัดไป บริษัทประกันภัยสองรายที่เหลืออยู่ รับผิดส่วนที่เหลืออยู่ 4 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 174,088,645.94 บาท) อีกคนละกึ่งหนึ่ง เท่ากับรายละ 2,000,000 ปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 87,044,322.97 บาท)
ทุกรายรวมทั้งหมดแล้วเท่ากับ 5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 217,610,807.42 บาท) นั่นเอง
ศาลได้วินิจฉัยว่า
1) ประเด็นแรก เมื่อปรากฏเงื่อนไขว่าด้วยการประกันภัยอื่นล้วนต่างมีลักษณะเป็นข้อห้ามบอกปัดความรับซึ่งกันและกัน โดยจะคุ้มครองให้เพียงลักษณะเป็นส่วนเกินของกันนั้น จะกลายเป็นไม่มีกรมธรรม์ประกันภัยจะรับผิดได้เลย ซึ่งไม่ถูกต้องกับค่าเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้ชำระต่างตอบแทนไป จึงให้ถือเสมือนเงื่อนไขลักษณะเช่นว่านี้ไม่มีผลใช้บังคับได้ และให้ทุกฉบับต้องรับผิดตามวงเงินที่กำหนดไว้ดั้งเดิมของแต่ละฉบับนั้นเอง อันเป็นการแปลความหมายที่ถูกต้องเหมาะสมกับมุมมองของผู้เอาประกันภัยทั่วไป และสอดคล้องกับจุดประสงค์ของการซื้อประกันภัย
2) ประเด็นที่สองการเฉลี่ยชดใช้ตามสัดส่วนนั้น ศาลไม่เห็นพ้องกับข้อต่อสู้ของบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยจำเลย เพราะไม่ปรากฏมีข้อกำหนด หรือข้อกฎหมายใดอย่างชัดแจ้งซึ่งระบุบังคับให้การประกันภัยหลายรายจำต้องเข้ามาร่วมเฉลี่ยชดใช้ตามสัดส่วนเป็นอย่างอื่น ฉะนั้น ผู้เอาประกันภัยจึงมีสิทธิที่จะเลือกเรียกร้องเอากับบริษัทประกันภัยรายใดก็ได้เป็นลำดับโดยอิสระ ทั้งนี้ จะต้องไม่เกินกว่าความเสียหายแท้จริงด้วย ส่วนการร่วมเฉลี่ยชดใช้นั้นเป็นประเด็นของบริษัทประกันภัยด้วยกันเองที่จะต้องไปว่ากล่าวกันต่อไป ทั้งไม่มีเหตุผลใดทางกฎหมายที่จะไปบังคับให้ผู้เอาประกันภัยซึ่งซื้อวงเงินความคุ้มครองรวมกันทั้งสิ้น 11 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 478,743,776.33 บาท) แต่สามารถเพียงเรียกร้องได้ลดลงเหลือแค่ 5 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (หรือประมาณ 217,610,807.42 บาท) เท่านั้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว ศาลวินิจฉัยให้ผู้เอาประกันภัยโจทก์มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยจำเลย สำหรับส่วนที่ยังขาดเหลืออยู่ซึ่งตนจะต้องรับผิดตามกฎหมายแก่ผู้เสียหาย และไม่ได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัยของตน
(อ้างอิง และเรียบเรียงมาจากคดี Watford Community Housing Trust v Arthur J Gallagher Insurance Brokers Ltd [2025] EWHC 743 (Comm))
หมายเหตุ
คดีศึกษานี้เป็นอุทธาหรณ์ที่พึงตระหนักอย่างดีแก่ทั้งบริษัทประกันภัย และนายหน้าประกันวินาศภัย ถึง
1) ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของตนที่มีอยู่ โดยเฉพาะนายหน้าประกันวินาศภัยที่จำต้องศึกษาอ่านถ้อยคำของกรมธรรม์ประกันภัยต่าง ๆ อย่างละเอียด เพราะการประกันภัยซ้ำซ้อนมีโอกาสเกิดขึ้นกับกรมธรรม์ประกันภัยประเภทเดียวกัน หรือต่างประเภทกันได้เสมอ โดยที่ตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
2) ความชัดเจนของถ้อยคำที่ปรากฏอยู่ในกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละฉบับ
3) เงื่อนไขการแจ้งเหตุแห่งการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เป็นไปได้ ควรแจ้งให้ครบถ้วนทุกราย ภายในกำหนดเวลาเผื่อไว้ดีกว่า
4) บรรทัดฐานทางกฎหมายในหลักการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของประเทศอังกฤษนี้ซึ่งไม่ได้มีบทบัญญัติกำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่ถ้ามีบทบัญญัติกฎหมายไว้ชัดเจนแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น เว้นแต่จะได้มีข้อตกลงพิเศษเป็นอย่างอื่นระหว่างคู่สัญญาประกันภัย
บริการ
- รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
- รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com
อ่านบทความอีกชุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ -กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น