วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

เรื่องที่ 31 : คนกลางประกันภัยไม่แนะนำ หรือจัดประกันภัยไม่เหมาะสม หรือไม่เพียงพอ ต้องรับผิดต่อผู้เอาประกันภัยหรือไม่?



(ตอนที่สาม)

นายหน้าประกันวินาศภัยไม่ทำหน้าที่ในการอธิบายเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย

นายหน้าประกันวินาศภัยรายหนึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ขอเอาประกันภัยให้จัดทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption Insurance) อันเป็นผลสืบเนื่องจากความเสียหายของทรัพย์สินของผู้ขอเอาประกันภัย โดยผู้ขอเอาประกันภัยแจ้งว่า หากเกิดความเสียหายขึ้นมา น่าจะใช้เวลาในการทำให้ธุรกิจกลับคืนสู่สถานะทางการเงินดังเดิมภายในระยะเวลาหกเดือน (Indemnity Period) และตั้งประมาณการผลกำไรขั้นต้นรายปี (Estimated Annual Gross Profit) ไว้ที่ 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐ

ในเวลาไปจัดทำประกันภัยในนามของผู้ขอเอาประกันภัย นายหน้าประกันวินาศภัยรายนี้กลับไปกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยของผลกำไรขั้นต้นไว้เพียง 51,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของตัวเลขที่ผู้ขอเอาประกันภัยต้องการ ทั้งยังแจ้งต่ออายุความคุ้มครองทุกปีด้วยตัวเลขเท่าเดิม

ต่อมา ได้เกิดไฟไหม้สร้างความเสียหายแก่สถานประกอบการของผู้เอาประกันภัยรายนี้จนทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักลงไป เป็นตัวเลขความเสียหายทางการเงินที่ควรจะได้รับการชดใช้ตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ รวมทั้งสิ้น 36,605 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่เนื่องจากจำนวนเงินเอาประกันภัยนั้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงในเวลาเมื่อเกิดความเสียหายนี้ขึ้นมา ผู้เอาประกันภัยจำต้องรับผิดชอบเองตามส่วน ภายใต้เงื่อนไขการเฉลี่ยความเสียหาย (average provision) ของกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งคำนวณแล้วเป็นเงิน 16,228 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยบริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เพียง 20,377 ดอลล่าร์สหรัฐ

ผู้เอาประกันภัยจึงนำคดีขึ้นสู่ศาล เพื่อเรียกร้องให้นายหน้าประกันวินาศภัยรายนี้ชดใช้จำนวนเงินส่วนที่ผู้เอาประกันภัยมิได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัย โดยกล่าวหาว่า นายหน้าประกันวินาศภัยของตนมิได้ชี้แจงให้รับทราบถึงเงื่อนไขการเฉลี่ยความเสียหาย (average provision) ในกรณีการทำประกันภัยต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (Under Insurance)

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นายหน้าประกันวินาศภัยรายนี้มิได้ทำหน้าที่ในฐานะเป็นตัวแทนที่ดีของผู้เอาประกันภัย ในการชี้ช่อง หรืออธิบายเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้เข้าใจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเงื่อนไขการเฉลี่ยความเสียหาย (average provision) จนส่งผลทำให้ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างเต็มที่ดังกล่าว นายหน้าประกันวินาศภัยรายนี้จึงต้องรับผิดชดใช้จำนวนเงินส่วนที่ขาดให้แก่ผู้เอาประกันภัย

อ้างถึงคดี J O'Conner and Sons Pty Ltd v Spunfine Pty Ltd, Macaray Pty Ltd and MMI General Insurance Limited [1998] ATCSC 69 at 5

หมายเหตุ : โดยหลักการ ถึงแม้จะได้กำหนดระยะเวลาการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Indemnity Period) อยู่ที่หกเดือน แต่ก็ต้องกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยของผลกำไรขั้นต้นไว้เป็นตัวเลขสิบสองเดือนเสมอ ทั้งเวลาต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละคราว จะต้องทบทวนจำนวนเงินเอาประกันภัยทุกครั้งไปด้วย มิฉะนั้น จะส่งผลทำให้จำนวนเงินเอาประกันภัยต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงได้

แล้วในเมื่อกรมธรรม์ประกันภัยก็อยู่ในมือของผู้เอาประกันภัย นายหน้าประกันวินาศภัยจะอ้างกลับบ้างได้ไหมว่า ทำไมผู้เอาประกันภัยถึงไม่อ่านกรมธรรม์ประกันภัยเอง ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ก็บอกมา มิเช่นนั้น กลายเป็นว่า นายหน้าประกันวินาศภัยจะต้องมานั่งอธิบายรายละเอียดกันทุกเงื่อนไขหรืออย่างไร?

คุณคิดว่า ศาลจะรับฟัง หรือเห็นใจนายหน้าประกันวินาศภัยบ้างไหมครับ? อดใจรออ่านตอนต่อไปนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น