วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

เรื่องที่ 205 : กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพของผู้รับเหมา (Construction Professional Indemnity) จะคุ้มครองงานที่บกพร่องจากการออกแบบ (Faulty Design) และการก่อสร้าง (Defective Workmanship) ได้จริงไหม?

 

ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยการปฏิบัติงานตามสัญญาว่าจ้าง (Contract Works Insurance Policy) หรือกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด สำหรับผู้รับเหมา (Contractor’s All Risks Insurance Policy) จะปรากฏมีข้อยกเว้นในเรื่องการออกแบบผิดพลาด (faulty design) หรืองานฝีมือที่บกพร่อง (defective workmanship) อยู่ ทำให้มีความคาดหวัง หรือกระทั่งมีข้อเสนอแนะว่า ถ้าผู้รับเหมาซื้อกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพจะสามารถรองรับความเสี่ยงภัย สำหรับข้อยกเว้นเหล่านั้นได้ โดยเฉพาะกรณีสัญญาว่าจ้างของผู้รับเหมาอยู่ในรูปแบบงานออกแบบ และงานก่อสร้าง (Design & Build Contract)

 

ตัวผู้รับเหมาเองมีความเชื่อมั่นเช่นว่านั้น กอปรกับสัญญาว่าจ้างก็กำหนดให้ผู้รับเหมาจัดทำประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพดังกล่าวเอาไว้ด้วย

 

ครั้นเวลาเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นมาจริง ผลลัพธ์จะออกหัว หรือออกก้อย เรามาพิจารณาดูตัวอย่างคดีศึกษาต่างประเทศเรื่องนี้กันนะครับ

 

เจ้าของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าหนึ่งที่ประเทศออสเตรเลียได้ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาหลัก (main or head contractor) รายหนึ่งให้มาดำเนินการออกแบบ และก่อสร้างอาคารห้องชุดอยู่อาศัยขึ้นมา พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้รับเหมาหลักรายนั้นจัดทำประกันภัยทางวิชาชีพเพิ่มเติมอีกฉบับหนึ่ง นอกเหนือจากกรมธรรม์ประกันภัยการปฏิบัติงานตามสัญญาว่าจ้างปกติ

 

ภายหลังจากงานเสร็จสิ้น และส่งมอบให้แก่เจ้าของโครงการแล้ว ปรากฏมีเจ้าของห้องชุดบางรายได้มาเรียกร้องค่าเสียหายเนื่องจากงานก่อสร้างบางจุดบกพร่องไม่เรียบร้อย (defects in the  buildings) จากทั้งเจ้าของโครงการ และผู้รับหลักรายนั้น โทษฐานกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยอาคารที่พักอาศัยแห่งประเทศออสเตรเลีย และกระทำการโดยประมาทเลินเล่อในการดำเนินงาน

 

เนื่องด้วยผู้รับหลักรายนี้ได้มีกรมธรรม์ประกันภัยทางวิชาชีพ สำหรับงานออกแบบ และงานก่อสร้าง (Design & Construction Professional Indemnity Insurance Policy) ไว้รองรับอยู่แล้วกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีข้อตกลงคุ้มครองเขียนไว้ ดังนี้

 

บริษัทประกันภัยตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น อันเป็นผลมาจากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากความรับผิดทางแพ่งใด ๆ ซึ่งได้ถูกกระทำขึ้นเป็นครั้งแรกต่อผู้เอาประกันภัย และได้ถูกแจ้งแก่บริษัทประกันภัยให้รับทราบภายในระยะเวลาประกันภัย โดยมีสาเหตุมาจากการให้บริการทางวิชาชีพ (professional services) ของผู้เอาประกันภัยตามที่ได้กำหนดไว้

 

ทั้งนี้ การให้บริการทางวิชาชีพนั้น หมายความรวมถึง การออกแบบ การกำหนดรายละเอียด การบริหารจัดการโครงการ (project management) หรือการบริหารจัดการงานก่อสร้าง (construction management) ด้วย

 

ผู้รับหลักรายนี้จึงได้แจ้งเรื่องราวดังกล่าวต่อบริษัทประกันภัยของตนเพื่อให้มารับผิดชอบแทนดังกล่าว

 

บริษัทประกันภัยแห่งนี้บอกปัดความรับผิด โดยอ้างว่า จากข้อความจริงทีสืบทราบมา ผู้รับเหมาหลักรายนี้ได้มีการช่วงงานออกแบบไปให้แก่บุคคลอื่น โดยมิได้กระทำการออกแบบเอง ซึ่งข้อตกลงคุ้มครองเขียนไว้ชัดเจนว่า จะรับผิดต่อเมื่อผู้รับเหมาหลักรายนี้ (ผู้เอาประกันภัย) ได้ดำเนินงานเองเท่านั้น เพราะมิฉะนั้นแล้ว จะไม่อาจเรียกได้ว่า เป็นการให้บริการทางวิชาชีพได้อย่างแท้จริง

 

ผู้รับเหมาหลักรายนี้ได้นำคดีขึ้นสู่ศาล โดยมีประเด็นให้ศาลทำการวินิจฉัยชี้ขาดอยู่สองประเด็น ได้แก่

 

1) ข้อตกลงคุ้มครองการให้บริการทางวิชาชีพดังกล่าวจำกัดอยู่เฉพาะตัวงานที่โจทก์ (ผู้รับเหมาหลักรายนี้) จะต้องกระทำเองเท่านั้น ใช่หรือไม่?

 

2) เหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นมาจากการให้บริการทางวิชาชีพตามที่กำหนดไว้หรือเปล่า?

 

โจทก์ (ผู้รับเหมาหลักรายนี้) ได้ต่อสู้ โดยอ้างว่า แม้ตัวงานออกแบบจะไม่ได้กระทำการเองก็จริง แต่ตนเองมีบทบาทหน้าที่ในการบริหารจัดการโครงการ หรือการบริหารจัดการงานก่อสร้างจนสำเร็จเสร็จสิ้น อันเป็นการให้บริการทางวิชาชีพตามที่กำหนดไว้อยู่ด้วย ฉะนั้น ตนควรจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับพิพาท

 

อย่างไรก็ดี ศาลสูง (superior court) ไม่เห็นพ้องด้วย เนื่องด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

 

(1) แม้โจทก์ (ผู้รับเหมาหลักรายนี้) อาจมีการให้บริการทางวิชาชีพดังระบุ แต่เหตุแห่งการกระทำนั้นอาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากการให้บริการทางวิชาชีพอย่างแท้จริงก็ได้ การกระทำผิดตามกฎหมายดังอ้างอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกับการให้บริการทางวิชาชีพเลยก็ได้ จำต้องพิจารณาจากข้อความจริงเป็นเกณฑ์ประกอบด้วย ซึ่งในคดีนี้ ไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจนแสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวงานที่บกพร่องดังอ้างกับการให้บริการทางวิชาชีพให้ศาลรับฟัง และเชื่อถือได้

 

(2) อนึ่ง ภายใต้ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับพิพาท ยังได้ระบุ ดังนี้

 

     (ก) คำจำกัดความของการให้บริการทางวิชาชีพ ไม่ได้หมายความ

          ถึง การดำเนินงาน หรือการกำกับดูแลการก่อสร้าง การผลิต 

          การประกอบ การติดตั้ง การบำรุงรักษา หรือการเปลี่ยนแปลง

          แก้ไขทางกายภาพของสิ่งปลูกสร้าง สินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือ

          ทรัพย์สินใด

 

     (ข) อีกทั้งข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับพิพาทเอง ก็ระบุ

           ไม่คุ้มครองถึง การบกพร่อง หรือการไม่เหมาะสมของ

           ผลิตภัณฑ์ และสินค้าต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง ตลอด

           จนถึงงานฝีมือที่บกพร่องด้วย

 

ศาลสูงจึงวินิจฉัยว่า การกระทำของฝ่ายโจทก์ตามฟ้อง ล้วนตกอยู่ในข้อยกเว้นข้างต้น และตัดสินให้ฝ่ายจำเลยบริษัทประกันภัยไม่จำต้องรับผิด

 

(อ้างอิง และเรียบเรียงมาจากคดี FKP Commercial Developments Pty Ltd v Zurich Australian Insurance Limited [2022] FCA 862)

 

หมายเหตุ

 

พึงระวัง ตัวงานที่บกพร่องนั้นอาจยังไม่สามารถด่วนสรุปถึงขนาดส่งผลทำให้เป็นการกระทำผิดทางวิชาชีพก็ได้ จำต้องอาศัยข้อความจริงอื่นมาพิจารณาประกอบด้วย

 

ในส่วนการไม่ได้กระทำการออกแบบเองของผู้รับเหมานั้น ไม่น่าถือเป็นประเด็น หากมองในหลักกฎหมายเรื่องตัวการกับตัวแทน เพราะกระทั่งงานก่อสร้าง/งานติดตั้งยังสามารถช่วงงานต่อไปให้ผู้รับเหมาช่วงได้

 

บริการ

 

-     รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย

-     รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)

สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com

 

อ่านบทความอีกชุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ -กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/  

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น