เรื่องที่ 159 : นักท่องเที่ยว/แขกพักอาศัยนำสิ่งของมีค่าติดตัวไปโรงแรม แล้วถูกขโมย ถือว่า มีส่วนประมาทร่วมหรือไม่?
ได้เขียนบทความอีกชุดหนึ่งเกี่ยวกับความรับผิดของเจ้าของโรงแรมไว้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย)
เมื่อไปอ่านแนวคดีศึกษาเรื่องนี้ของต่างประเทศ เห็นว่า มีประเด็นต่อสู้ที่น่าสนใจ จึงขอนำมาเล่าเสริม ดังนี้
1) นักท่องเที่ยว/แขกพักอาศัยเวลาเดินทาง ทำไมจะต้องพกพาสิ่งของมีค่าติดตัวไปด้วย?
2) หากจำเป็นจะต้องพกพาไป ทำไมไม่นำไปฝากเก็บไว้ในตู้นิรภัยกับเจ้าของโรงแรม?
ถ้าขืนทำไป แล้วสิ่งของมีค่าเหล่านั้นถูกลักขโมยไป จะถือว่า นักท่องเที่ยว/แขกพักอาศัยนั้นมีส่วนร่วมประมาทเลินเล่อด้วยได้ไหม?
กรณีต่าง ๆ ข้างต้นได้ถูกหยิบยกเป็นข้อต่อสู้ของเจ้าของโรงแรมในต่างประเทศ เมื่อมีสามีภรรยาคู่หนึ่งได้ถูกคนร้ายลักขโมยเครื่องเพชรมูลค่าร่วมล้านกว่าดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณสามสิบกว่าล้านบาทซึ่งถูกเก็บไว้ในตู้เซฟของห้องพัก ระหว่างได้เข้าไปพักอาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง
สามีภรรยาแขกผู้พักอาศัยรายนี้จึงเรียกร้องให้เจ้าของโรงแรมรับผิดชอบ
แต่เจ้าของโรงแรมปฏิเสธความรับผิด พร้อมต่อสู้ว่า
เดินทางมาเที่ยวพักผ่อน ทำไมจะต้องนำเครื่องเพชรมูลค่าสูงเช่นนั้นติดตัวมาด้วย
ถ้าจำเป็นต้องนำมา ก็ควรนำไปฝากไว้ในตู้นิรภัยของโรงแรมจะมั่นคงปลอดภัยมากกว่า
ฉะนั้น จึงถือว่า ถ้าโรงแรมจะต้องมีความรับผิดอยู่บ้าง ก็แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น แขกผู้พักอาศัยรายนี้มีส่วนประมาทเลินเล่อมากกว่า เนื่องจากสามารถเล็งเห็นได้ว่า มีความเสี่ยงภัยค่อนข้างสูงที่จะถูกลักขโมยได้ ทั้งยังละเลยด้วยการไม่นำพาที่จะนำไปฝากไว้กับเจ้าของโรงแรมอีกด้วย
แขกผู้พักอาศัยรายนี้ได้นำคดีขึ้นสู่ศาล
ศาลชั้นต้นเห็นพ้องกับเจ้าของโรงแรมฝ่ายจำเลย
แขกผู้พักอาศัยรายนี้ฝ่ายโจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำโต้แย้งของโจทก์ที่ว่า
โจทก์เดินทางมาเมืองนี้เพื่อร่วมงานสังคมระดับสูง มิใช่มาเที่ยวพักผ่อนเฉย ๆ จึงจำเป็นจะต้องแต่งตัวให้เหมาะสมกับงานเช่นนั้น โดยปกติที่เดินทางทั่วไป ก็มิได้พกพาสิ่งของมีค่าขนาดนี้มาอยู่แล้ว
สาเหตุที่มิได้นำเครื่องเพชรกับสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ไปฝากเก็บไว้ในตู้นิรภัยของโรงแรม เพราะจุดที่รับฝากนั้นอยู่บริเวณพื้นที่มีผู้คนอยู่พลุกพล่าน จึงรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องนำส่งของมีค่าต่าง ๆ ไปแสดงแถลงให้ผู้คนทั่วไปสามารถรับรู้ได้ อาจเพิ่มความเสี่ยงภัยให้แก่โจทก์ในภายหลังด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงได้นำมาเก็บไว้ในตู้เซฟของห้องพักแทนน่าจะปลอดภัยกว่า แต่สุดท้าย โชคร้ายที่มีคนร้ายลักลอบเข้าไปขโมย
ศาลอุทธรณ์รับฟัง และคล้อยตามคำโต้แย้งของโจทก์
การนำพาสิ่งของมีค่าติดตัวเวลาเดินทาง ไม่ถือเป็นความประมาทเลินเล่อ หรือมีส่วนประมาทเลินเล่อร่วมอยู่ด้วย
การจัดตู้เซฟในห้องพัก ถ้ามิใช่เพื่อให้แขกผู้พักอาศัยเก็บสิ่งของมีค่า แล้วจะให้เก็บสิ่งใดกันแน่
เมื่อเจ้าของโรงแรมมีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่แขกผู้เข้ามาพักอาศัยซึ่งเป็นลูกค้าของตนเป็นการต่างตอบแทนที่ได้รับค่าที่พักอาศัยจากลูกค้าเหล่านั้น ก็จำต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็งให้ดีที่สุด
ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยให้เจ้าของโรงแรมฝ่ายจำเลยรับผิดตามกฎหมายแต่ผู้เดียว
(อ้างอิง และเรียบเรียงมาจากคดี Paraskevaides v. Four Seasons Washington, 292 F.3d 886 (2002))
หากเจ้าของโรงแรมฝ่ายจำเลยมีทำประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายเอาไว้ บริษัทประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองนั้นอยู่ จะต้องเข้ามารับผิดแทนต่อไป
บริการ
- รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
- รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com
อ่านบทความอีกชุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น