วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เรื่องที่ 148 : เรื่องวุ่น ๆ ของคำว่า “รั้ว (Fence)” ของการประกันภัยทรัพย์สิน

 

(ตอนที่หนึ่ง)

 

เวลาคุณบอกทำประกันภัยคุ้มครองตัวบ้าน หรืออาคาร (Building) ร้านค้า โรงงาน โกดังซึ่งตั้งอยู่ในสถานที่ของคุณ

 

คุณจะหมายความถึงเช่นใด?

 

(ก) เฉพาะตัวบ้าน หรืออาคาร (Building) ร้านค้า โรงงาน โกดังเท่านั้น หรือ

(ข) รวมถึงรั้ว (Fence) กำแพง (Wall) หรือสิ่งปลูกสร้าง (Structure) อื่น ๆ ที่อยู่ภายในสถานที่นั้นด้วย

 

ไม่ว่าคุณจะหมายถึงอะไรก็ตาม แล้วคุณคิดว่า บริษัทประกันภัยนั้นมีความเข้าใจเช่นเดียวกันหรือเปล่า?

 

เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย และมักจะก่อให้เกิดประเด็นปัญหาตอนเกิดเคลมความเสียหายบ่อยครั้ง เนื่องจากกว่าจะรับรู้ว่า มีความเข้าใจไม่ตรงกัน ก็อาจค่อนข้างสายไปแล้ว

 

ดังตัวอย่างคดีศึกษาต่างประเทศนี้

 

เจ้าของบ้านไร่ปศุสัตว์รายหนึ่งนำตัวบ้าน (Dwelling House) พร้อมกับสิ่งปลูกสร้างอื่น (Other Structures) ไปจัดทำประกันภัย แบบความคุ้มครองสำหรับเจ้าบ้าน (Homeowner Insurance) กับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งจำแนกรายการทรัพย์สินที่เอาประกันภัยเป็นสองรายการ ดังนี้

 

1) ตัวบ้าน (Dwelling House) คุ้มครองในจำนวนเงินเอาประกันภัย 247,200 ดอลล่าร์

2) สิ่งปลูกสร้างอื่น (Other Structures) คุ้มครองในจำนวนเงินเอาประกันภัย 24,720 ดอลล่าร์

 

ระหว่างระยะเวลาประกันภัยได้เกิดลมพายุพัดผ่านมาสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินต่าง ๆ ของผู้เอาประกันภัยรายนี้ โดยบริษัทประกันภัยได้มาตรวจสอบ และประเมินราคาความเสียหายให้ ดังนี้

 

1) ตัวบ้าน (Dwelling House) มีราคาความเสียหายอยู่ที่ 20,090.61 ดอลล่าร์ โดยจะชดใช้ให้ตามนั้น

2) สิ่งปลูกสร้างอื่น (Other Structures) มีราคาความเสียหายอยู่ที่ 70,449.02 ดอลล่าร์ แต่เนื่องจากมีวงเงินความคุ้มครองสูงสุดอยู่เพียง 24,720 ดอลล่าร์เท่านั้น จึงขอชดใช้ให้ตามวงเงินสูงสุดดังกล่าว

 

ผู้เอาประกันภัยรายนี้ยอมรับค่าสินไหมทดแทนรายการแรกได้ แต่ไม่อาจยอมรับรายการที่สองได้เลย เพราะค่าเสียหายของรั้วอย่างเดียวก็ปาไปตั้ง 58,665 ดอลล่าร์แล้ว

 

ก่อให้เกิดประเด็นข้อถกเถียงกันว่า รั้วมีความหมายเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้านหรือไม่?

 

ถ้าใช่ ก็จะได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มตามความเสียหายที่แท้จริง?

 

ถ้าไม่ใช่ ก็จะได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่เกินวงเงินความคุ้มครองสูงสุด? คือ ได้เพียงบางส่วน แต่ไม่เต็มตามความเสียหายที่แท้จริง

 

กรมธรรม์ประกันภัยฉบับพิพาทระบุเงื่อนไขความคุ้มครอง

 

1) ตัวบ้าน (Dwelling House) ที่ตั้งอยู่ในสถานที่พักอาศัยดังกำหนดไว้ รวมถึงสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ซึ่งต่อติดอยู่ (attached) กับตัวบ้านนั้นเอง

2) สิ่งปลูกสร้างอื่น (Other Structures) ที่ตั้งอยู่ในสถานที่พักอาศัยนั้น โดยเว้นระยะห่างออกจากตัวบ้านนั้น และรวมถึงสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมต่อ (connected) กับตัวบ้านนั้นเอง อันได้แก่รั้ว ระบบสาธารณูปโภค หรือระบบเชื่อมต่ออื่นที่คล้ายคลึงกัน

 

โดยที่มิได้มีคำจำกัดความของสิ่งปลูกสร้างกำหนดไว้เป็นพิเศษเอาไว้ด้วยเลย

 

ฝ่ายผู้เอาประกันภัยโต้เถียงว่า ตามถ้อยคำทั่วไป รั้วที่ต่อติดกับตัวบ้านทั้งสี่จุด จัดเป็นสิ่งปลูกสร้างซึ่งต่อติดอยู่กับตัวบ้านนั้น

 

ขณะที่ฝ่ายบริษัทประกันภัยก็อ้างว่า รั้วพิพาทที่มีความยาว 4,000 ฟุตนั้นเพียงแค่ยึดติดกับตัวบ้านโดยอาศัยการขันนอตติดอยู่สี่ตัวนั้น มิได้อยู่ในความหมายของการต่อติดอยู่กับตัวบ้านดังกำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้แต่ประการใด

 

เมื่อตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายผู้เอาประกันภัยจึงนำเรื่องขึ้นสู่ศาลชั้นต้น เพื่อพิจารณาวินิจฉัย

 

ศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้อง โดยเห็นพ้องกับฝ่ายบริษัทประกันภัยจำเลย

 

โจทก์ผู้เอาประกันภัยอุทธรณ์

 

ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น

 

โจทก์ผู้เอาประกันภัยยังไม่ละความพยายาม และได้นำคดีขึ้นสู่ศาลฎีกาต่อ

 

คุณคิดว่า ศาลฎีกาจะตัดสินออกเช่นใดครับ?

 

ยืน หรือกลับคำพิพากษาศาลชั้นล่าง

 

เรื่องนี้ต้องติดตามต่อสัปดาห์หน้าครับ พร้อมการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน ฉบับมาตรฐานบ้านเรา

 

บริการ

-     รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย

-     รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)

สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com

 

อ่านบทความอีกชุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น