คดีตัวอย่างนี้อาจมีเงื่อนไขข้อกำหนดความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยแตกต่างจากชุดกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับเจ้าบ้านของบ้านเราอยู่บ้าง แต่เห็นว่า มีบางประเด็นที่น่าสนใจควรนำมาเล่าสู่กันฟัง
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศแคนาดา ผู้เอาประกันภัยรายนี้ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางถนนจนร่างกายทุพพลภาพได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐให้ถือครองยาจากกัญชา และปลูกต้นกัญชาภายในบ้านเพื่อจุดประสงค์ทางการรักษาพยาบาลของตนเองได้
ประมาณเดือนกันยายน ค.ศ. 2009 ได้มีคนร้ายเข้าไปขโมยถอนต้นกัญชาหกต้นที่ผู้เอาประกันภัยได้ปลูกไว้ในสวนหลังบ้านไป ถัดมาอีกสองปีในเดือนเดียวกัน ต้นกัญชาที่ปลูกไว้อีกห้าต้นก็ถูกขโมยไปอีก
เมื่อผู้เอาประกันภัยรายนี้ได้พิจารณาเงื่อนไขข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับเจ้าบ้านของตน ซึ่งระบุความคุ้มครองที่เกี่ยวข้องเอาไว้ ดังนี้
1. หมวดความคุ้มครอง ข – ทรัพย์สินส่วนบุคคล (Personal Property)
คุ้มครองสิ่งของต่าง ๆ ภายในสถานที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินส่วนบุคคลอื่นใดซึ่งผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของ สวมใส่ หรือใช้อยู่ภายในสถานที่เอาประกันภัยตามปกติวิสัยเพื่อการอยู่อาศัย
2. การขยายความคุ้มครองถึงต้นไม้ ไม้พุ่ม และพรรณพืชต่าง ๆ
ขยายความคุ้มครองถึงต้นไม้ ไม้พุ่ม และพรรณพืชต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดสวน (landscaping) ภายในสถานที่เอาประกันภัย ในเงินคุ้มครองรวมสูงสุดไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนเงินเอาประกันภัยทั้งหมด โดยมีจำนวนเงินคุ้มครองย่อยสูงสุดต่อต้น 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐ รวมทั้งการขนย้ายซากด้วย อันมีสาเหตุจากภัยที่กำหนดไว้ รวมถึงการลักขโมยด้วย
ผู้เอาประกันภัยจึงได้ยื่นเรื่องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนต่อบริษัทประกันภัยของตนทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
บริษัทประกันภัยตกลงยินดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับต้นกัญชาทั้งหมดสิบเอ็ดต้นที่ถูกขโมยไปรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,000 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่ได้รับการโต้แย้งจากผู้เอาประกันภัยรายนี้ว่า (เนื่องจากมูลค่าของต้นกัญชาแต่ละต้นสูงกว่าวงเงินที่กำหนดไว้) ตนเห็นว่า ต้นกัญชานั้นควรถือเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ซึ่งอยู่ในความคุ้มครองหลักมากกว่าที่จะอยู่ในส่วนของการขยายความคุ้มครองดังกล่าวข้างต้น เพราะคำว่า “การจัดสวน (landscaping)” มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างภูมิทัศน์ ขณะที่การปลูกต้นกัญชานั้นกระทำเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์
ฉะนั้น บริษัทประกันภัยจำต้องชดใช้ตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริงของต้นกัญชาเหล่านั้น รวมถึงความเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ ตลอดจนความเสียหายทางด้านจิตใจ และความเจ็บปวดทางร่างกายอีกด้วย ซึ่งคำนวณแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 360,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ไม่รวมค่าต้นกัญชา)
แน่นอนครับ เรื่องนี้จำต้องให้ศาลท่านเป็นผู้พิจารณาเสียแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นด้วยกับบริษัทประกันภัยซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีนี้ว่า ต้นกัญชาจัดอยู่ในส่วนของการขยายความคุ้มครอง มิใช่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลอื่นเพื่อการอยู่อาศัยแต่ประการใด
โจทก์ คือ ผู้เอาประกันภัยรายนี้ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ
ศาลอุทธรณ์มีความเห็นว่า ถ้อยคำของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ในหมวดความคุ้มครอง ข ชัดเจนอยู่แล้วว่า “คุ้มครองสิ่งของต่าง ๆ ภายในสถานที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินส่วนบุคคลอื่นใด ....”
ฉะนั้น ต้นกัญชาถือเป็นสิ่งที่ผู้เอาประกันภัยได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐเป็นการเฉพาะบุคคล เข้าข่ายอยู่ในความหมายของทรัพย์สินส่วนบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความคุ้มครองหมวดนี้ยังกำหนดเงื่อนไขต่ออีกว่า จะได้รับความคุ้มครองต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยได้ใช้ตามปกติวิสัยเพื่อการอยู่อาศัย (usual to …… of a dwelling) เท่านั้น อนึ่ง ในเวลาที่พิจารณาคดีนี้ ปรากฏมีผู้ได้รับอนุญาตให้ปลูกต้นกัญชาได้ไม่ถึงร้อยละหนึ่งของจำนวนประชากรของประเทศเลย
แม้ศาลอุทธรณ์จะเห็นต่างจากศาลชั้นต้นเรื่องรายการของทรัพย์สินที่คุ้มครอง แต่ก็เห็นพ้องกันตรงที่ต้นกัญชาไม่อยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดไว้ของหมวดความคุ้มครอง ข ดังเหตุผลที่อ้างนั้น และตัดสินว่า ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมานั้นชอบแล้ว
(อ้างอิงและเรียบเรียงจากคดี Stewart v. TD General Insurance Company, 2014 ONSC 854 (CanLII))
เทียบเคียงกับถ้อยคำของกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย สำหรับที่อยู่อาศัยฉบับมาตรฐานบ้านเรา ซึ่งชุดกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับเจ้าบ้านของบ้านเราใช้อ้างอิงถึงเป็นต้นแบบ ก็มีระบุถ้อยคำที่คล้ายคลึงตรงคำจำกัดความของทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างว่า “....... และทรัพย์สินอื่น ๆ (ที่มิได้ระบุอยู่ในข้อยกเว้นทั่วไป 5.3 ข้อ 5.3.8 ต้นไม้ การจัดแต่งสวน สนามหญ้า) เพื่อการอยู่อาศัยของผู้เอาประกันภัยหรือบุคคล ซึ่งตามปกติพักอาศัยอยู่กับผู้เอาประกันภัย”
เคยมีประเด็นปัญหาการตีความว่า ทรัพย์สินเพื่อการอยู่อาศัยนั้น หมายความเช่นไรกันแน่? ถึงขนาดจะต้องอาศัยจำนวนประชากรของประเทศมาคำนวณประกอบการพิจารณาดังเช่นคดีศึกษานี้หรือเปล่า?
ส่วนตัวที่หยิบยกคดีศึกษาเกี่ยวกับกัญชามาเพื่อเป็นแนวทางเสริมสร้างความรู้ และได้เขียนเพิ่มเติมในบทความ พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว อีก เพราะไม่แน่ใจว่า การผ่อนผันให้ถือครองกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ของเราจะถูกดำเนินการเร็วขนาดไหน แต่กระแสเรียกร้องดูมากเหมือนกัน เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ธุรกิจประกันภัยควรเตรียมการรองรับไว้บ้างน่าจะดี
เรื่องต่อไป: เป็นกรณีคดีศึกษาของการประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิดสำหรับผู้รับเหมา (Contractor’s All Risks Insurance) ส่วนจะเป็นประเด็นใดนั้น โปรดติดตามครับ)
บริการ
- รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
-
รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com
ประกันภัยเป็นเรื่อง http://vivatchaia.blogspot.com
พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook
Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น