เรื่องที่ 96: การชดใช้ตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง
(Actual Cash Value) มีความหมายว่าอย่างไรกันแน่?
(ตอนที่สอง)
ถึงแม้มีคำพิพากษาของต่างประเทศส่วนใหญ่จะวางแนวทางไว้ว่า
การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง สำหรับความเสียหายบางส่วน
จะคำนวณจากมูลค่าสร้างใหม่ (มูลค่าซื้อใหม่)
โดยไม่หักค่าเสื่อมราคา ณ วันที่เกิดความเสียหาย
เนื่องจากศาลตีความหมายของการทำให้กลับคืนสู่สภาพดังเดิมด้วยการใช้วัสดุที่เหมือนกัน
หรือใกล้เคียงกันนั้น เป็นเพียงมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมราคาค่าซ่อมแซมเท่านั้น
มิใช่หมายความถึงต้องใช้วัสดุที่มีอายุการใช้งาน และสภาพเก่าเท่ากัน
ซึ่งในทางปฏิบัติ อาจจะสร้างปัญหาเพิ่มเติมขึ้นมาอีกแก่ทั้งฝ่ายผู้เอาประกันภัย
หรือฝ่ายบริษัทประกันภัยก็ได้
อย่างไรก็ดี
ฝ่ายบริษัทประกันภัยที่ยังยืนยันแนวความคิดของตนเองที่จะต้องให้มีการหักค่าเสื่อมราคาก็โต้แย้งว่า
จะมีผลทำให้ไม่มีความแตกต่างอะไรกับกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเลือกกำหนดทุนประกันภัยเป็นแบบมูลค่าทดแทนเลย
ฝั่งศาลก็กล่าวเพิ่มเติมว่า
หากฝ่ายบริษัทประกันภัยซึ่งเป็นผู้ร่างกรมธรรม์ประกันภัยขึ้นมาเองฝ่ายเดียวยึดถือหลักการเช่นนั้นจริง
ทำไมถึงมิได้ระบุลงไปไว้อย่างชัดแจ้งในกรมธรรม์ประกันภัยเสียเล่า?
ศาลจะได้สามารถพิจารณาไปตามถ้อยคำเช่นว่านั้นได้ ทั้งศาลยังแปลกใจอีกว่า
ทำไมบริษัทประกันภัยวางสูตรการคำนวณการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของมูลค่าความเสียหายที่แท้จริงไว้เพียงเป็นมูลค่าสร้างใหม่ (มูลค่าซื้อใหม่) โดย (ไม่) หักค่าเสื่อมราคา ณ
วันที่เกิดความเสียหายวิธีการเดียวเท่านั้น? ซึ่งไม่น่าจะใช้ปฏิบัติได้อย่างแท้จริง
ดังตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงต่อไปนี้
ผู้เอาประกันภัยรายหนึ่งซื้ออาคารขนาดใหญ่เก่าทรุดโทรมหลายหลังอายุร่วมกว่าห้าสิบปีในเขตใกล้ชุมชนแออัดด้วยราคาเพียง
7,000 เหรียญสหรัฐจากผู้รับจำนอง ได้นำไปทำประกันภัยด้วยทุนประกันภัย 50,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งหากคำนวณตามมูลค่าที่แท้จริงโดยใช้สูตรมูลค่าสร้างใหม่ ณ วันที่ทำประกันภัย หักด้วยค่าเสื่อมราคา (Depreciation) ตามจำนวนปีที่ใช้งาน ผลลัพธ์ที่ได้ คือ
60,500 เหรียญสหรัฐ (มูลค่าสร้างใหม่
119,500
– 45% ค่าเสื่อมราคา)
ต่อมาเกิดไฟไหม้อาคารหลังนั้นเสียหายบางส่วน
ผู้เอาประกันภัยได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยจำนวนเงิน 18,500 เหรียญสหรัฐ ทั้งที่ผู้เอาประกันภัยใช้เงินซื้ออาคารทั้งหลังเพียง
7,000 เหรียญสหรัฐเท่านั้น และผู้เอาประกันภัยรายนี้ได้บอกขายต่ออาคารตามสภาพที่ยังไม่ได้ซ่อมแซมให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่ไปด้วยราคา
4,400 เหรียญสหรัฐ
พร้อมแจ้งบริษัทประกันภัยขอเปลี่ยนแปลงชื่อผู้เอาประกันภัยใหม่
ระหว่างนั้นได้เกิดไฟไหม้อาคารหลังนี้ขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง
ผู้ซื้อรายใหม่นี้ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทประกันภัยขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริงเป็นเงินประมาณ
43,000 เหรียญสหรัฐ
คุณเห็นว่า บริษัทประกันภัยควรถือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ไหมครับ?
สัปดาห์หน้าค่อยมาเรื่องนี้คุยกันต่อนะครับ
บริการ
- รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
-
รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com
ประกันภัยเป็นเรื่อง http://vivatchaia.blogspot.com
พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook
Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น