เรื่องที่ 86:กรรมการบริษัทได้รับบาดเจ็บจากการทำงานสามารถฟ้องบริษัทของตนเองกับบริษัทประกันภัยให้รับผิดภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดของเจ้าหน้าที่บริหารกับกรรมการ
(Director & Officer
Liability Insurance Policy) ได้หรือไม่?
มุมมองของผม การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่บริหารกับกรรมการ
(Director
& Officer Liability Insurance Policy) นั้นมีความคล้ายคลึงกับกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดของนายจ้าง (Employer’s Liability
Insurance Policy) แต่ให้ขอบเขตความคุ้มครองที่กว้างกว่ามาก
เพราะกรมธรรม์ประกันภัยฉบับหลังมุ่งเน้นไปเฉพาะตัวลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ
หรือเจ็บป่วยจากการทำงานเท่านั้น ขณะที่ฉบับแรกจะรวมไปถึงบุคคลอื่นซึ่งได้รับความเสียหายจากกระทำผิดของเจ้าหน้าที่บริหารกับกรรมการด้วย
ปัจจุบัน ไม่ใคร่พบเห็นความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับหลังในตลาดประกันภัยบ้านเราแล้ว
การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่บริหารกับกรรมการในบ้านเรา
มักนิยมทำกันในธุรกิจ หรือองค์การขนาดใหญ่ ส่วนธุรกิจ
หรือองค์การขนาดย่อมลงมาทำกันน้อยมาก อาจด้วยยังไม่เห็นความจำเป็นมากนัก
ที่ต่างประเทศกังวลเรื่องความเสี่ยงภัยจากการถูกฟ้องร้อง
เนื่องจากมูลค่าความรับผิดตามกฎหมายนั้นค่อนข้างสูงมาก จึงเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องบริหารจัดการความเสี่ยงภัยนี้ให้ดี
การโอนความเสี่ยงภัยนี้ไปให้บริษัทประกันภัยรับผิดชอบแทนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีแก่ธุรกิจทุกขนาด
ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่
อย่างในคดีที่เกิดขึ้น ณ ประเทศอังกฤษ
บริษัทแห่งหนึ่งได้จัดทำประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่บริหารกับกรรมการไว้เพื่อลดความเสี่ยงภัยดังกล่าว
ต่อมา ปรากฏลูกจ้างรายหนึ่งประสบอุบัติเหตุจากการทำงานจนได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส
จึงได้มาเรียกร้องให้บริษัทนายจ้างของตน และบริษัทประกันภัยให้ร่วมกันรับผิดชอบ
ดูเผิน ๆ ไม่น่าจะมีประเด็นซับซ้อนยุ่งยากอะไร?
แต่เรื่องนี้กลับมีปัญหา เพราะบังเอิญทั้งกรรมการบริษัท ผู้ถือหุ้น
และลูกจ้างผู้บาดเจ็บล้วนคือ คน ๆ เดียวกัน หรือพูดง่าย ๆ ว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนี้
สวมหมวกหลายใบ เป็นทั้งผู้ถือหุ้น หรือเจ้าของบริษัท เป็นทั้งกรรมการ
และเป็นลูกจ้างซะเองรวมอยู่ในบุคคลคนเดียวกันนั่นเอง
ทีนี้เมื่อกลับมามองข้อความจริง
คนเดียวทำหน้าที่หลายบทบาทเช่นนี้ ในแง่กฎหมายตีความอย่างไร?
แน่นอนครับ
บริษัทประกันภัยบอกทันทีว่า ไม่คุ้มครอง เพราะผู้เอาประกันภัยมิใช่บุคคลอื่นอันจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้
เรื่องนี้จึงเป็นคดีขึ้นสู่ศาล
ผู้บาดเจ็บเป็นโจทก์ให้การว่า
แรกเริ่ม บริษัทนี้มีกรรมการสองคน ต่อมา กรรมการคนหนึ่งได้ลาออกไป
จึงเหลือกรรมการอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งคือ ผู้บาดเจ็บรายนี้ และมีลูกจ้างทำงานให้อยู่เพียงคนเดียว
ตนเองที่เป็นกรรมการปกติจะทำหน้าที่บริหารจัดการเท่านั้น
วันเกิดเหตุเพียงแค่เข้าไปช่วยลูกจ้างทำงานจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าวขึ้นมา ตนไม่ทราบว่า
ต้องมีหน้าที่ในการดูแลรักษาสุขอนามัยและความปลอดภัยให้แก่ลูกจ้างตามกฎระเบียบของกฎหมาย
เข้าใจว่า เป็นหน้าที่ของลูกจ้างที่จะต้องจัดการดูแลเอง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า
ศาลไม่คำนึงว่า สถานะนิติบุคคลของบริษัทจะแยกออกจากกับสถานะของบุคคลได้
แต่นิติบุคคลจะกระทำการได้ต้องกระทำผ่านกรรมการผู้รับมอบอำนาจ เมื่อกรรมการนั้นทำผิดเสียเองด้วยการละเว้นปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย
บริษัทก็จำต้องรับผิดด้วยเช่นกัน ตัดสินยกฟ้องโจทก์
โจทก์ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาว่า
แม้กฎหมายเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานจะมีผลบังคับต่อบริษัทมิใช่ลูกจ้างก็ตาม
แต่คดีนี้ ปรากฏว่า ทั้ง(เจ้าของ) บริษัท กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน และลูกจ้างผู้เสียหายล้วนเป็นบุคคลเดียวกัน
โดยหลักกฎหมายแล้ว บุคคลไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากการกระทำผิดของตนเองได้
จึงวินิจฉัยให้ยกคำร้องอุทธรณ์นั้น
(อ้างอิงจากคดี Peter Brumder v (1)
Motornet Service & Repairs Ltd & (2) Aviva Insurance Ltd [2013] EWCA
Civ 195)
เทียบเคียงกับหลักกฎหมายไทย
ซึ่งให้ความสำคัญกับข้อความจริง และอำนาจการบังคับบัญชามากกว่าเรื่องตำแหน่งหน้าที่
และค่าจ้างตอบแทน
กรรมการสามารถมีสถานะเช่นลูกจ้างได้เหมือนกัน
หากข้อความจริงได้กระทำเสมือนเป็นลูกจ้างด้วย ดังตัวอย่างนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4471/2530 โจทก์ได้รับแต่งตั้งจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เป็นกรรมการของบริษัทจำเลย
มีฐานะเป็นผู้แทนของบริษัทมีอำนาจกระทำการแทนจำเลย มิใช่เป็นลูกจ้างของจำเลย แต่การที่คณะกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนของบริษัทจำเลยกำหนดให้โจทก์ทำหน้าที่ควบคุมการซื้อและจ่ายยา
ให้ทำหน้าที่เป็นแพทย์เวรโดยได้รับค่าจ้าง และโจทก์ต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของจำเลย
ดังนี้ถือว่าโจทก์มีฐานะเป็นลูกจ้างของจำเลยอีกฐานะหนึ่ง
น่าเชื่อว่า ผลทางคดีนี้ถ้ามาเกิดขึ้นในบ้านเรา
คงไม่แตกต่างกัน
เรื่องต่อไป: แนวคำพิพากษาศาลเรื่องเอกสารแนบท้ายว่าด้วยข้อจำกัดและข้อยกเว้นเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตร
(Sanction Limitation and Exclusion Endorsement)
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย):
เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่
https://www.facebook.com/pomamornkul/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น