แรกทีจะไปพูดถึงเรื่องอื่นบ้าง
แต่พอดีมีประเด็นต่อเนื่องจากเรื่องที่ผ่านมาอีกนิดนึง จึงขอนำมากล่าวถึงเสียเลย
หลายท่านเมื่ออ่านข้อกำหนดเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สิน
บ่อยครั้งจะพบข้อความดังตัวอย่างต่อไปนี้ว่า
“ความคุ้มครอง : ภัยน้ำท่วม ในวงเงินไม่เกิน 50,000,000.00 บาท
ต่อครั้ง และตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย”
หรือ
“กรมธรรม์ฉบับนี้ขยายความคุ้มครองถึงภัยลมพายุ,
ภัยแผ่นดินไหว, ภัยน้ำท่วม, ภัยจากลูกเห็บในวงเงินทุกภัยรวมกันไม่เกิน 10,000,000.00
บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง และตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย”
คำว่า “ต่อครั้ง” กับ “ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง”
จะมีความหมายเหมือนกันหรือเปล่า?
คงตอบได้ว่า เหมือนกันครับ และดังที่กล่าวมาแล้วในเรื่องที่ผ่านมา
ถ้ามิได้มีการกำหนดคำนิยามอย่างชัดแจ้งระหว่างคำว่า “อุบัติเหตุ” กับ “เหตุการณ์”
ก็ใช้สลับทดแทนกันได้
แต่ถ้าไปเจอคำว่า “ต่อความเสียหายแต่ละครั้ง และทุกครั้ง
(each
and every loss)” กับ “ต่อค่าสินไหมทดแทนแต่ละครั้ง
และทุกครั้ง (each and every claim)”
แล้วล่ะก้อ ซึ่งมักนิยมเขียนถึงความเสียหายส่วนแรก (Deductible) หรือความรับผิดส่วนแรก (Excess) ซึ่งล้วนเป็นกรณีที่เป็นจำนวนเงินส่วนแรกผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบเอง
ส่วนที่เกินจากวงเงินดังกล่าว บริษัทประกันภัยถึงจะรับผิดชอบให้
ดังตัวอย่าง
1)
กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน
“ความเสียหายส่วนแรก : 10% ของความเสียหาย ขั้นต่ำ
100,000.00 บาท แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะสูง
กว่ากันของความสูญเสีย
หรือความเสีย
หายจากภัยน้ำท่วม
ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง
และตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย”
2)
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ
“ความเสียหายส่วนแรก : 6,000
บาทแรก ของความเสียหายต่อรถ
ยนต์ ที่เกิดจากการชน การคว่ำ”
โดยทั่วไป กรมธรรม์ประกันภัยจะประกอบด้วยสองคำหลัก คือ คำว่า
“ความสูญเสีย (Loss)” หมายความถึง
ความสูญเสียโดยสิ้นเชิง หรือเสมือนหนึ่งสิ้นเชิง หรืออีกนัยหนึ่ง คือ
ไม่คุ้มค่าซ่อม บริษัทประกันภัยยินดีจ่ายเต็มวงเงินคุ้มครองมากกว่า
หรือหมายรวมถึงการสูญหายไป อีกคำหนึ่งคือ “ความเสียหาย (Damage)”
นั้น หมายความถึง ความเสียหายบางส่วนที่สามารถซ่อมแซม หรือเปลี่ยนทดแทนบางส่วนได้
บางครั้ง คำว่า “ความสูญเสีย (Loss)”
อาจหมายความรวมถึงทั้งความสูญเสีย หรือความเสียหาย โดยเป็นคำเรียกรวมกันไปเลย
เว้นแต่จะมีข้อกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ดังในคำนิยามเฉพาะของกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน
“คำว่า “ความเสียหาย (Damage)” หมายความถึง ความสูญเสีย
หรือความเสียหายทางกายภาพ
ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนที่เกิด
ขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย
ไว้ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัย
ฉบับนี้
(any
physical loss or damage
either partial or
total to
property insured under
this
Policy.)
คำว่า
"ความเสียหายส่วนแรก" หมายความถึง จำนวนเงินซึ่ง
ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบ
เองตามที่ระบุไว้ในตาราง
กรมธรรม์ประกันภัยต่อความเสีย
หายแต่ละครั้ง และทุกครั้งที่ได้
รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
(each and every claim
payable) ตามกรมธรรม์ประกัน
ภัยนี้”
ดังนั้น
เมื่อมาพิจารณาตัวอย่างที่หนึ่งประกอบกับคำนิยามข้างต้น สมมุติภัยน้ำท่วมกำหนดวงเงินความคุ้มครองสูงสุดไว้ที่
10,000,000.00 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง และตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย ต่อมาเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นสร้างความเสียหายทั้งสิ้น
15,000,000
บาท
บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้
คือ 10,000,000.00 บาทเท่านั้น แต่เนื่องด้วยมีความเสียหายส่วนแรกกำหนดไว้ที่ 10% ของความเสียหาย ขั้นต่ำ 100,000.00 บาท นั่นคือ
บริษัทประกันภัยจะชดใช้ให้จริงเพียง 9,000,000 บาท (10,000,000
– 1,000,000) ในกรณีนี้
โอกาสที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับค่าสินไหมทดแทนเต็มวงเงินจึงไม่มี
เนื่องด้วยบริษัทประกันภัยต้องการให้ผู้เอาประกันภัยมีส่วนร่วมรับผิดอย่างเต็มที่ด้วยนั่นเอง
ทั้งในคำนิยามได้ระบุให้ไปหักความเสียหายส่วนแรกจากค่าสินไหมทดแทน (claim) ซึ่งบริษัทประกันภัยจะทำจ่าย
สำหรับตัวอย่างที่สอง
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ กำหนดคำนิยามที่เกี่ยวข้องไว้ ดังนี้
““ความเสียหายส่วนแรก”
หมายถึง ส่วนแรกของความรับผิด หรือ
ความเสียหาย อันมีการคุ้มครอง
ตามข้อสัญญา
หรือเอกสารแนบ
ท้ายแห่งกรมธรรม์ประกันภัยนี้ที่
ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบ
เอง”
สมมุติ
ผู้เอาประกันภัยซื้อรถยนต์ใหม่มาหนึ่งคัน ราคาหนึ่งล้านบาท ครั้นนำไปทำประกันภัย
บริษัทประกันภัยยอมรับคุ้มครองให้ในวงเงินแปดแสนบาทเท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุ รถพลิกคว่ำได้รับความเสียหายเสมือนสิ้นเชิง
บริษัทประกันภัยตกลงจะชดใช้เต็มวงเงินคุ้มครอง
แต่ประเด็นมีปัญหาอยู่ที่จะนำเอาความเสียหายส่วนแรกไปหักตรงตัวเลขใด
ทางเลือกที่หนึ่ง
800,000 บาท หักด้วย 6,000 บาท = 794,000 บาท
ทางเลือกที่สอง
1,000,000 บาท หักด้วย 6,000 บาท = 994,000 บาท
เมื่อพิจารณาจากคำนิยามแล้ว
ต้องใช้ทางเลือกที่สองคำนวณ เพราะคำว่า “ความเสียหาย” มิได้มีความหมายเฉพาะ
จึงตีความว่า เป็นความเสียหาย (Loss) ที่เกิดขึ้นจริงกับผู้เอาประกันภัยรายนี้
ซึ่งคือ 1,000,000 บาท แต่วงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกินทุนประกันภัย
800,000 บาท ฉะนั้น
บริษัทจะต้องพิจารณาชดใช้ให้เต็มทุนประกันภัยดังกล่าว
ในกรณีนี้
ผู้เอาประกันภัยจะมีโอกาสได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มทุนประกันภัย
คำว่า
“ต่อความเสียหาย (Loss)” หรือ “ต่อค่าสินไหมทดแทน (Claim) แต่ละครั้ง และทุกครั้ง” นั้น หากเขียนเต็ม ก็คือ “ต่อเหตุการณ์ความเสียหาย
(Loss
Event)”
หรือ “ต่อค่าสินไหมทดแทน (Claim Event) แต่ละครั้ง
และทุกครั้ง”
ซึ่ง
“Event” หรือ “Occurrence”
ก็ให้ความหมายอย่างเดียวกัน
ประเด็นปัญหาถ้อยคำในกรมธรรม์ประกันภัยยังมีอีกมากมาย
จะทยอยนำมาเขียนในคราวต่อไปนะครับ