เรื่องการอนุญาตให้ถือครองกัญชาได้ในต่างประเทศอย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อนุญาตเพียงระดับมลรัฐ (State Law) เท่านั้น และทยอยดำเนินการไปตามแต่ละรัฐที่มีความพร้อม ส่วนระดับของประเทศยังมิได้ออกกฎหมายรองรับ (Federal Law) กันเลย สร้างความปวดหัวให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างมาก
ฉะนั้น จะส่งผลอย่างไรกับการประกันภัยบ้าง? มาดูคดีศึกษานี้กันครับ
ผู้เอาประกันภัยมีอาคารพาณิชย์ให้เช่าโดยจำกัดเพียงเพื่อให้เปิดเป็นสำนักงาน หรือธุรกิจที่เสี่ยงภัยต่ำเท่านั้น และได้ทำประกันภัยคุ้มครองตัวอาคารเอาไว้กับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน
อยู่มาวันหนึ่ง ผู้เอาประกันภัยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่า ได้นำกำลังเข้าไปตรวจค้นอาคารที่ให้เช่าของผู้เอาประกันภัย เนื่องจากมีเบาะแสว่า ผู้เช่าของผู้เอาประกันภัยนั้นได้ดัดแปลงอาคารที่เช่าเพื่อใช้ปลูกกัญชาแทน ขอเชิญเข้าไปร่วมตรวจดูสภาพด้วย
เมื่อผู้เอาประกันภัยไปเห็นสภาพอาคารของตนเองแล้ว แทบจะหน้ามืดเป็นลม เพราะตัวอาคารนั้นถูกรื้อผนังออก เจาะรูตรงหลังคา พร้อมมีการติดตั้งท่อระบายอากาศกับท่อแก๊สเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการปลูกกัญชาดังกล่าว ประมินราคาค่าเสียหายต่อตัวอาคารนั้นแล้วคิดเป็นเงินประมาณ 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
ผู้เอาประกันภัยจึงยื่นเรื่องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยของตน โดยให้การว่า ตนมิได้รับรู้ หรือเห็นชอบให้ผู้เช่าดำเนินการดังกล่าวแต่ประการใด แต่ต้องผิดหวัง เพราะถูกปฏิเสธ จึงจำต้องนำคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยให้บริษัทประกันภัยรับผิดตามเงื่อนไขข้อกำหนดของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนั้นด้วย
บริษัทประกันภัยรายนี้อ้างว่า เนื่องจากกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้กำหนดข้อยกเว้นของสาเหตุของความเสียหายที่ไม่คุ้มครองเอาไว้ว่า
“การกระทำอันมีลักษณะฉ้อโกงหรือไม่ซื่อสัตย์ต่อผู้เอาประกันภัยหรือทรัพย์สินที่เอาประกันภัย”
เนื่องจากผู้เอาประกันภัยได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการเช่าอย่างชัดแจ้งตั้งแต่ต้นแล้วว่า ให้เพื่อทำเป็นสำนักงานหรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงภัยต่ำเท่านั้น ฉะนั้น การรื้อดัดแปลงอาคารที่เช่านั้นของผู้เช่าโดยพลการ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อผู้เอาประกันภัยดังที่ได้กำหนดไว้ในข้อยกเว้นข้างต้น
ศาลพิจารณาแล้วเห็นพ้องกับบริษัทประกันภัย และกล่าวเสริมเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ถึงแม้ตามกฎหมายของมลรัฐจะสามารถให้ดำเนินการปลูกกัญชาได้ แต่ยังถือเป็นการกระทำผิดของกฎหมายระดับประเทศ (Federal Law) อยู่ดี
ครั้นเมื่อผู้เอาประกันภัยนำคดีขึ้นสู่ชั้นศาลอุทธรณ์ ผลลัพธ์ไม่แตกต่างกัน แม้ผู้เอาประกันภัยพยายามต่อสู้ว่า การกระทำของผู้เช่านั้นถือเป็นการกระทำป่าเถื่อน (Vandalism) ซึ่งมิได้ถูกยกเว้นเอาไว้ก็ตาม แต่ศาลอุทธรณ์ก็เห็นสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นที่ว่า การกระทำของผู้เช่านั้นเข้าข่ายเป็นความไม่ซื่อสัตย์ต่อทรัพย์สินที่เช่าซึ่งผู้เช่าได้รับมอบจากผู้ให้เช่าให้ครอบครองดูแล ซึ่งแตกต่างจากการกระทำป่าเถื่อนโดยบุคคลอื่นใด
ส่วนประเด็นข้อขัดแย้งทางด้านกฎหมายนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นไม่มีความจำเป็นต้องพิจารณา จึงตัดสินยืนให้บริษัทประกันภัยไม่จำต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้
(อ้างอิงและเรียบเรียงจากคดี K.V.G. Properties, Inc. v. Westfield Insurance Company, No. 17-2421 (Aug. 21, 2018))
กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินฉบับมาตรฐานบ้านเราก็มีข้อยกเว้นข้อนี้เช่นกันนะครับ
เรื่องต่อไป: แล้วถ้าหากยาจากกัญชาและต้นกัญชาที่ได้รับอนุญาตให้ถือครอง ถูกคนร้ายขโมยไป จะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยได้ไหม?
บริการ
- รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย
-
รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)
สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com
ประกันภัยเป็นเรื่อง http://vivatchaia.blogspot.com
พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook
Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul/
และที่ https://www.facebook.com/BestTrainingAdvisory
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น