วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2564

เรื่องที่ 150 : ความเสียหายที่แท้จริงของสต็อกสินค้า

 

(ตอนที่หนึ่ง)

 

เวลาพูดถึงการกำหนดทุนประกันภัยของอาคารสิ่งปลูกสร้าง หรือทรัพย์สินปกติทั่วไป ณ วันที่ทำประกันภัย มักมีข้อเสนอแนะจากบริษัทประกันภัยให้พิจารณาเลือกกำหนดอยู่สองทางเลือกหลัก ได้แก่

 

1) ตามมูลค่าที่แท้จริง (Actual Cash Value) แบบมีการหักค่าเสื่อมราคา หรือ

2) ตามมูลค่าเปลี่ยนทดแทน/มูลค่าสร้างใหม่ (Replacement Value) แบบไม่มีการหักค่าเสื่อมราคา

 

โดยทางเลือกที่สองจะถือเป็นข้อตกลงพิเศษซึ่งถูกระบุอย่างชัดแจ้งเอาไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยด้วย เนื่องจากจำต้องระบุข้อกำหนดเงื่อนไขการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้สอดคล้องไปด้วย มิฉะนั้น จะกลายเป็นเข้าหลักการปกติของการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเป็นจริง

 

แล้วกรณีของสต็อก (Stock) ล่ะ จะใช้หลักการเดียวกันหรือเปล่า?

 

อันที่จริง โดยหลักการแล้วคงไม่มีอะไรแตกต่างกัน ที่แตกต่างออกไปนั้น จะอยู่ที่รายละเอียดปลีกย่อยตามประเภทของสต็อกมากกว่า ซึ่งมีความหลากหลาย และจำต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องตรงกันตั้งแต่เบื้องต้นจะดีที่สุด

 

สต็อกทั่วไปอาจจำแนกตามวัตถุประสงค์ในแง่มุมของผู้เกี่ยวข้อง กล่าวคือ ในฐานะของผู้ผลิต ผู้ขายส่ง ผู้ขายปลีก หรือกระทั่งผู้ซื้อเอง ออกได้เป็น

 

(ก) สต็อกวัตถุดิบ

(ข) สต็อกระหว่างการผลิต

(ค) สต็อกผลิตเสร็จแล้ว

(ง) สต็อกสินค้าเพื่อขาย

(จ) สต็อกสินค้าสำรองเพื่อใช้งาน

 

กอปรกับสต็อกเองในทางเศรษฐกิจอาจมีมูลค่าผันแปรไปตามสิ่งที่เรียกว่า “อุปสงค์ (Demand) กับอุปทาน (Supply)” หรืออีกนัยหนึ่ง คือ “ความต้องการซื้อกับความต้องการขาย” นั่นเอง

 

ทั้งยังไม่มีความคงที่แน่นอนตายตัว อาจมีระดับความเคลื่อนไหวผันแปรไปตามปัจจัยข้างต้น

 

ยิ่งส่งผลทำให้ควรต้องใส่ใจในรายละเอียดของการกำหนดทุนประกันภัยมากกว่าทรัพย์สินทั่วไปอื่น ๆ แต่ในทางปฏิบัติ กลับถูกละเลยไปอย่างน่าเสียดาย จนทำให้เกิดปัญหาเวลาเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นมาอยู่บ่อยครั้ง

 

เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสต็อกที่เอาประกันภัยมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ณ เวลาเกิดความเสียหาย

 

ในสภาวะของโรคโควิดแพร่ระบาดขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจในเรื่องของอุปสงค์กับอุปทานไปทั่วโลก ระดับกำลังการผลิตลดน้อยลงไปอย่างไม่สัมพันธ์กับระดับความต้องการซื้อที่แม้ลดน้อยลงไปบ้างก็ตาม

 

บริษัทประกันภัยจะชดใช้ให้ตามมูลค่าที่แท้จริงเช่นไร?

 

อันเนื่องจากข้อกำหนดการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของกรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินโดยทั่วไปจะระบุว่า

 

1) กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยทั่วไป

 

บริษัท (ประกันภัย) จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริงในขณะเกิดความเสียหาย (the value of the property at the time of its loss or destruction) แก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย หรือเลือกที่จะทำการสร้างให้ใหม่ หรือซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม หรือจัดหาทรัพย์สินมาทดแทนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด หรือบางส่วน

 

2) กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน

 

บริษัท (ประกันภัย) ไม่ผูกพันที่จะต้อง่อมแซม หรือจัดหาทรัพย์สินมาทดแทนให้เหมือนกับทรัพย์สินเดิมทุกประการ เพียงแต่ว่าจัดไปตามสภาพการจะอำนวย โดยบริษัท (ประกันภัย) จะกระทำการให้สมเหตุสมผลที่สุด และไม่ว่ากรณีใดๆ บริษัท (ประกันภัย) จะจ่ายไม่เกินค่าซ่อมแซมทรัพย์สินนั้นในขณะที่เกิดความเสียหายหรือไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย (at the time of the occurrence of such loss or damage, nor more than the sum insured thereon)

 

คำว่า “มูลค่าความเสียหายที่แท้จริงในขณะเกิดความเสียหาย” ของทั้งสองกรมธรรม์ประกันภัยข้างต้นควรแปลความหมายอย่างไร?

 

โปรดติดตามต่อสัปดาห์หน้าครับ

 

บริการ

-     รับบรรยายให้ความรู้ด้านประกันวินาศภัย

-     รับแปลเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย (อังกฤษเป็นไทย)

สนใจติดต่อ vivatchai.amornkul@gmail.com

 

อ่านบทความอีกชุดที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน พบ-ป(ร)ะ-กัน(ภัย): เป็นเรื่อง เป็นราว ใน Facebook Meet Insurance ที่ https://www.facebook.com/pomamornkul

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น